เมืองพัทยาเตรียมพัฒนาเขาพัทยา เป็น “อุทยานหลวงทัพพระยา” ดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยา จัดประชาพิจารณ์โครงการจ้างศึกษาความเหมาะสมพัฒนาพื้นที่เขาพัทยา เป็น “อุทยานหลวงทัพพระยา” รอบ 2 หวังก้าวสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ด้านชุมชนหวั่นโครงการส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ พื้นที่สีเขียว

วันนี้ (3 ก.พ.) ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 โครงการจ้างศึกษาความเหมาะสมเพื่อพัฒนาพื้นที่เขาพัทยา เป็น “อุทยานหลวงทัพพระยา” สู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมรับฟังการนำเสนอ จากบริษัท Feel Green Design จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาโครงการ

สำหรับโครงการจะดำเนินการศึกษาระยะเวลาประมาณ 10 เดือน แนวคิดการออกแบบจะคำนวณจากพื้นที่ 285 ไร่ 2 งาน 25 ตาราวา ซึ่งเป็นพื้นที่เขาทัพพระทั้ง 2 ลูก โดยเมืองพัทยา มีนโยบายรักษาพื้นที่สีเขียวในการนำมาใช้ประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงได้ศึกษาความเหมาะสม

นายอิทธิพล กล่าวว่า แนวทางการดำเนินการนั้นเบื้องต้นจะเน้นเรื่องการปรับปรุงในสิ่งที่มีอยู่ สร้างสัญลักษณ์ที่จะเป็นจุดดึงดูดการท่องเที่ยว และปรับปรุงสถานที่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนเขาทัพพระยาทั้ง 2 ลูก อีกทั้งจะทบทวนการใช้ประโยชน์ที่เคยออกแบบในหลายโครงการ ส่วนงบประมาณการออกแบบจะคำนวณจากขนาดของพื้นที่ ซึ่งเมืองพัทยาได้ตั้งไว้ 8 ล้านบาท โดยจะนำโครงการที่ประชาชนเห็นด้วยมากที่สุดมาดำเนินการก่อน โดยบรรจุไว้ในแผนพัฒนาเมืองพัทยา 3 ปี และ 5 ปี

เบื้องต้นอาจจะปรับปรุงภูมิทัศน์ก่อน ตามด้วยการก่อสร้าง หรือการจัดสร้างจุดขายของเมืองพัทยา ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการลงทุนสูง

รายงานข่าวแจ้งว่า การจัดทำประชาพิจารณ์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ใน 3 ครั้ง โดยช่วงท้ายได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้เสนอแนะ และสอบถามข้อสงสัย ซึ่งส่วนใหญ่ต่างเห็นชอบ เพียงแต่เป็นห่วง และวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของโครงการที่อาจสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศ และธรรมชาติดั้งเดิมบนเขาทั้ง 2 ลูก เนื่องจากเขาพัทยาถือเป็นพื้นที่สีเขียวแห่งสุดท้ายของเมืองพัทยาที่ควรรักษาไว้

พร้อมกันนี้ ยังให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการในอดีตของเมืองพัทยา เช่น โครงการที่จอดรถ-จอดเรือ ซึ่งใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่กลับยังไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ การจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างกรณีของอาคาร Water Front บาลีฮาย ที่ยังไม่แก้ไข รวมทั้งการระเบียบชายหาด ปัญหาการจราจร และอื่นๆ ซึ่งกรณีดังกล่าว นายกเมืองพัทยาชี้แจงว่า หลายโครงการมีการติดตาม และเร่งรัดให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว เช่น โครงการที่จอดรถ ซึ่งปัจจุบันกำลังร่างข้อกำหนดให้ภาคเอกชนเข้ามารับสัมปทานภายในเวลา 2 เดือนนี้ ขณะที่โครงการที่จอดเรือนั้น ได้มอบหมายให้ทางผู้รับเหมาซ่อมแซม ปรับปรุงท่าเรือพร้อมอุปกรณ์ที่เสียหาย ก่อนเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้

สุดท้ายในส่วนของอาคารสูงบริเวณแหลมบาลีฮาย ปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบจากสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม ในเรื่องของแบบแปลนอาคาร หากพบว่ากระทำผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนแน่นอน