xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านลุ่มน้ำชีตอนล่างออกรณรงค์ “เดินเพื่อสายน้ำ” จวกภาครัฐจัดการน้ำล้มเหลว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยโสธร - ชาวบ้านลุ่มน้ำชีตอนล่างร่วมรณรงค์ “เดินเพื่อสายน้ำ” มีพระสงฆ์นำขบวนชาวบ้าน นักศึกษา และเยาวชนกว่า 50 คนสวมเสื้อขาวสกรีนคำว่า “เดินเพื่อสายน้ำ น้ำไหล ใจสะอาด” พร้อมอ่านคำประกาศก่อนออกเดิน ซึ่งชาวบ้านเชื่อที่ผ่านมาการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ขาดการมีส่วนร่วม

นายนิมิต หาระพันธ์ แกนนำชาวบ้านลุ่มน้ำชีตอนล่าง จ.ยโสธร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา ชาวลุ่มน้ำชีตอนล่างได้จัดกิจกรรมเดินเพื่อสายน้ำ มีหลายภาคส่วนเข้าศึกษาเส้นทางน้ำเพื่อจะได้จัดเก็บข้อมูลโดยชาวบ้าน เนื่องจากที่ผ่านเส้นทางน้ำได้ถูกกระทำจากโครงการพัฒนาแหล่งน้ำของรัฐจนทำให้การไหลของน้ำเปลี่ยนทิศทาง และไม่คำนึงถึงระบบนิเวศดั่งเดิมของธรรมชาติ

โดยเฉพาะโครงการโขง ชี มูล ที่มีการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำชี แล้วทำให้น้ำไหลเปลี่ยนทิศทางในช่วงฤดูน้ำหลากส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้าน มิหนำซ้ำยังเป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำของรัฐที่ไม่ได้ศึกษาผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม

การจัดกิจกรรมเดินเพื่อสายน้ำครั้งนี้ทางคณะได้เล็งเห็นความสำคัญของแหล่งน้ำขนาดเล็กที่เป็นสายน้ำที่ไหลลงแม่น้ำชี และมีระบบนิเวศที่สัมพันธ์กันทำให้ชุมชนได้มีการพึ่งอาศัยแหล่งน้ำเหล่านี้ในการดำรงชีวิต ซึ่งการเดินเพื่อสายน้ำเป็นการรณรงค์ปลุกจิตสำนึกของคนในท้องถิ่นให้มีความตระหนักต่อประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อม และเป็นการศึกษาเส้นทางน้ำจริง พวกเราได้กำหนดระยะเวลาในการเดินเพื่อสายน้ำ 2 วัน คือวันที่ 24-25 ธันวาคม 2557

จากการเดินเพื่อสายน้ำในวันแรกเราพบว่าในลำน้ำมีการสร้างสิ่งกีดขวางเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะการสร้างคันดินปิดเส้นทางน้ำเดิม การขุดลอกเส้นทางน้ำแล้วนำดินขึ้นมาไว้ริมฝั่งทำเป็นถนนแต่ไม่มีระบบการวางท่อระบายน้ำเพื่อให้น้ำไหลได้อย่างเป็นอิสระ ซึ่งปรากฏการณ์เหล่านี้เป็นการแสวงหาผลประโยชน์ของหน่วยงานราชการและเอกชนบางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ

แต่ไม่เข้าใจถึงทิศทางการไหลของน้ำจริง และไม่รับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านที่เห็นต่าง

นายศิริฬศักดิ์ สะดวก ผู้ประสานงานศูนย์พิทักษ์สิทธิการจัด ทรัพยากรชุมชนลุ่มน้ำชีตอนล่าง กล่าวว่า ในเมื่อสถานการณ์ปัญหาทางสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำชีไม่เป็นไปตามเจตจำนงของชุมชนที่มีความต้องการแตกต่างกัน โดยหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ยึดหลักการและข้อมูลของชุมชนเป็นตัวตั้ง

หรือบางครั้งนำข้อมูลของชุมชนไปบิดเบือนเพื่อเสาะแสวงหาโครงการที่จะนำลงมาดำเนินการในพื้นที่ การเดินเพื่อสายน้ำในครั้งนี้เป็นความประสงค์ของชาวบ้านที่อยากศึกษาเส้นทางน้ำในพื้นที่ของตนเองเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกันของชาวบ้าน โดยผ่านการสร้างจิตสำนึกร่วมกันของชุมชนที่ได้อาศัยแหล่งน้ำในการดำรงวิถีชีวิต

ที่ผ่านมาการจัดการทรัพยากรน้ำเป็นการรวมศูนย์การจัดการโดยรัฐ ซึ่งไม่ให้ชุมชนหรือชาวบ้านในพื้นที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมตั้งแต่กระบวนการเริ่มโครงการจริง ดังนั้นผมมองว่าการร่วมกันเดินรณรงค์เพื่อสายน้ำในครั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกคนที่ร่วมเดินทางด้วยกันได้เข้าใจถึงระบบนิเวศทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อการดำรงวิถีชุมชน

นายชนินทร์ ยศบุญ นักศึกษาชมรมวรรณศิลป์ศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ร่วมเดินรณรงค์เพื่อสายน้ำ กล่าวว่า ไม่มีใครที่จะเข้าใจเส้นทางเดินน้ำเท่ากับธรรมชาติ เนื่องจากเส้นทางเดินน้ำถูกกำหนดมาตั้งแต่ก่อนมีชุมชน ปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจากมนุษย์ไปสร้างสิ่งกีดขวางทางน้ำเป็นการฝืนธรรมชาติ

โดยเฉพาะการสร้างเขื่อนและคันไดค์ ในการเดินครั้งนี้ผมมองว่าชาวบ้านเป็นกลุ่มคนที่อยู่ใกล้ชิดกับแม่น้ำจะเข้าใจเส้นทางเดินของน้ำดีกว่า และชาวบ้านสามารถจัดการน้ำโดยตนเองได้เพราะความเข้าใจระบบการไหลของน้ำ


กำลังโหลดความคิดเห็น