น่าน - พัฒนาสังคมฯ น่าน พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องคุมตัวสองสามีภรรยาพิการทางสายตาชาวหนองบัวลำภู เดินร้องเพลงแลกเศษเงินกลางเมืองน่าน พอค้นตัวเจอทั้งแหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือทองคำหนักหลายบาท สอบพบเปิดโรงแรมนอนก่อนตระเวน บอกเป็น “วณิพก” ไม่ใช่ขอทาน
วันนี้ (3 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสถาพร ทองแดง หัวหน้าสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน พร้อมด้วยนางสาวระรินทิพย์ เพ็ชรเจริญ หัวหน้าฝ่ายงานสังคมฯ, นางสาวปภาอร สรรวิริยะ นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญงาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ พม.น่าน เร่งออกตรวจขอทานตามจุดเสี่ยงต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองน่าน ตามมติ ครม. 26 ธ.ค. 57 ที่ให้ พม. ร่วมกับส่วนราชการอื่นจัดระเบียบคนขอทานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันยั่งยืน ตามพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2484
จากการออกตรวจที่ตลาดตั้งจิตนุสรณ์ เขตเทศบาลเมืองน่าน พบนายแสวง นามบุญลือ อายุ 47 ปี และนางริน นามบุญลือ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 270 หมู่ 5 ต.บ้านขาม อ.เมืองหนองบัวลำภู สองสามีภรรยากำลังเดินร้องเพลงเพื่อแลกเศษเงินในตลาด จึงได้ประสานพนักงานสอบสวน สภ.เมืองน่าน ให้ควบคุมตัวสอบสวนข้อเท็จจริง
เบื้องต้นพบว่านายแสวงเป็นผู้บกพร่องพิการทางสายตาด้วย ตรวจสอบภายในตัวของทั้งคู่พบเงินสดทั้งธนบัตรใบละ 20 บาทและเศษเหรียญ สร้อยคอทองคำสองเส้น สร้อยข้อมือทองคำ 1 เส้น และแหวนทองคำอีก 1 วง ซึ่งมีสภาพใหม่ กุญแจห้องพักของโรงแรมจันทร์อินทร์
สอบสวนทราบว่าทั้งคู่ได้เดินทางเข้ามาในจังหวัดน่านตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. 58 แล้วเข้าพักที่โรงแรมจันทร์อินทร์ ซึ่งเป็นโรงแรมห้องพักราคาถูก ก่อนตระเวนร้องเพลงเพื่อแลกเศษเงิน โดยยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นขอทานแต่เป็นวณิพก
นางสาวปภาอร สรรวิริยะ นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญงาน กล่าวว่า เป็นนโยบายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่จะให้มีการจัดระเบียบขอทานทั่วทั้งประเทศ ซึ่งทั้งขอทานตั้งขัน หรือการร้องเพลง ดีดสีตีเป่าเพื่อแลกทรัพย์สิน ก็นับว่าเป็นการเข้าข่ายขอทานทั้งหมด จนกว่าจะมี พ.ร.บ.วณิพก ออกมา ซึ่งก็ต้องดูเรื่องใบอนุญาตและการแต่งกายที่ต้องไม่แสดงเจตนาจงใจให้คนดูว่ายากจนน่าช่วยเหลือ
กรณีสองสามีภรรยาดังกล่าว ได้ทำบันทึกหลักฐานของทั้งสองคนไว้ พร้อมส่งตัวให้ทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดน่านดำเนินการต่อไป