อุดรธานี - ผบ.ตร.ลงอุดรธานี ย้ำตรวจเข้มการค้าแรงงานเด็ก สตรี และลอบค้าประเวณี ชี้การที่หน่วยความมั่นคงกลางลงพื้นที่จับค้ากามเองถือเป็นการตรวจสอบการทำงานของตำรวจท้องที่ห้ามมองเป็นการสร้างความแตกแยก พร้อมเรียกร้องให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมาเพื่อเรียกศรัทธาจากประชาชน ขณะเดียวกัน มีรายงานหลังมีการจับกุมสถานค้าประเวณีกลางเมืองอุดรฯ-อ.วังสามหมอ มีคำสั่งเด้ง 3 นายตำรวจใหญ่ใน สภ.เมืองอุดรธานี ไปปฏิบัติราชการที่กองบังคับการ ตร.ภ.อุดรธานีแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ ภ.จว.อุดรธานี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เดินทางตรวจเยี่ยม และติดตามการปฏิบัติงาน พร้อมมอบขวัญกำลังใจแก่ตำรวจในพื้นที่ โดยมี พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (ผบช.ภ.4) และ พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี และหัวหน้าสถานีตำรวจใน จ.อุดรธานี ให้การต้อนรับ
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวในการมอบนโยบายว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายในการบริหารงานอยู่ 8 ข้อ แต่นโยบายทั้งหมดนั้นจะไม่สามารถทำได้สำเร็จตามเป้าประสงค์ หากว่าไม่ได้รับความร่วมมือจากตำรวจทั้งประเทศ ดังนั้น ตำรวจจึงจะต้องมอบความรัก ความมีศรัทธาให้แก่พี่น้องประชาชน และนอกจากที่จะต้องดำเนินการตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ตำรวจเองที่เป็นกลไกของรัฐก็จะต้องทำตามนโยบายของ คสช.ที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน และเคร่งครัดอีกด้วย
โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้แรงงานเด็ก สตรี รวมไปถึงการค้าประเวณีที่มีคนอายุต่ำกว่า 18 ปี รวมอยู่ด้วย เข้าข่ายการค้ามนุษย์ จนกระทั่งประเทศสหรัฐอเมริกา ได้จัดประเทศไทยเข้าไปอยู่ในอันดับที่ต้องจับตาดู พร้อมกันนี้ ก็ได้มีการพูดไปถึงการที่หน่วยความมั่นคงเดินทางลงพื้นที่ทำการจับกุมสถานการค้าประเวณีว่า อย่าไปโกรธหน่วยงานดังกล่าว และอย่ามองว่าเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความแตกแยก เพราะทุกเรื่อง ทุกฝ่ายต่างก็มีการตรวจสอบไขว้กันไป ไขว้กันมา ฉะนั้นหากทางสำนักงานฯ มีนโยบายอะไร อย่างไรแล้ว ไม่ได้รับการตอบสนองก็จะมีปัญหา
จากการที่หน่วยความมั่นคงลงมาทำการตรวจสอบตำรวจนั้น ก็เป็นการตรวจสอบการทำงานของตำรวจ ดังนั้น ก็ขอให้ตำรวจได้มีความเข้าใจว่า เขาเองก็ทำงานตามหน้าที่ ขอให้ทุกฝ่ายเลิกพูดได้แล้วว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการก่อให้เกิดความแตกแยก ทุกคนต้องตั้งอยู่บนความถูกต้องและทำตามนโยบาย เนื่องจากว่าการทำงานของทุกภาคส่วนก็เป็นการทำงานของกลไกของภาครัฐ คงไม่มีหน่วยงานใดโดยเฉพาะที่มานั่งคอยจับผิดการทำงานของตำรวจ
พล.ต.อ.สมยศ ยังได้กล่าวถึงการปฏิรูปหน่วยราชการโดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ในฐานะของผู้บังคับบัญชาหน่วย ตนได้กำหนดแนวทางเอาไว้ 2 ประเด็น และพร้อมที่จะรับการเปลี่ยนแปลงที่ประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุด เพราะตำรวจเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ขอให้มีการปฏิรูปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้หลุดพ้นออกไปจากอำนาจ และการแทรกแซงทางการเมือง
โดยจะต้องให้คนของตำรวจบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหากว่าใครที่จะรับเอาสำนักงานตำรวจไปบริหารก็ขอให้เอาไปให้หมด อย่าเอาไปเพียงบางส่วน และทิ้งเอาไว้บางส่วน และเชื่อว่า คนที่อยากจะทำการปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ยังไม่รู้ หรือยังไม่เข้าใจการทำงานของตำรวจได้ลึกซึ้ง หลายฝ่ายพูดว่า ตำรวจหวงอำนาจไว้ ซึ่งไม่เป็นความจริง
พร้อมกันนี้ ก็หันมาพูดถึงตำรวจเองจะต้องมีการปรับปรุงตัวเองเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง คือจะทำอย่างไรที่ตำรวจจะทำงานให้ประชาชนเขาพอใจ ยอมรับ และเกิดศรัทธาในตัวของตำรวจ ซึ่งทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งของประชาชนไม่ยอมรับ ไม่ศรัทธาในการทำงานของตำรวจ เขาไม่เชื่อใจตำรวจ ตำรวจเองก็ต้องพร้อมที่จะรับเอาการเปลี่ยนแปลงทั้งในปัจจุบัน และการเปิดเป็นเออีซี
“เราอยากจะถ่ายโอนสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปให้กระทรวง ทบวง กรมใดก็ได้ แต่ขอให้เอาไปทั้งหมดเลย ไม่ใช่เอาอำนาจบางส่วนไป และทิ้งบางส่วนเอาไว้ นี่คือสิ่งที่ผมหนักใจ และผมจะขอใช้เวทีปฏิรูปคราวนี้ชี้แจงให้สังคมได้รับรู้ว่าตำรวจทำงานย่างไร ขอให้น้องๆ เพื่อนๆ ตำรวจอย่าตกใจ และขอให้ตำรวจทุกคน และประชาชนว่า มีข้อแนะนำอะไร อย่างไรที่เกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจ ก็ขอให้ส่งผ่านมาทางรอง ผบ.ตร.ได้ เพื่อจะได้รวบรวมเป็นข้อมูล ผมไม่กลัว ผมจะใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส”
จากนั้นได้มีการประชุมลับโดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลฟังการประชุม ซึ่งเป็นการประชุมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่หน่วยความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย เดินทางลงพื้นที่ทำการจับกุมสถานประการค้าประเวณีทั้งที่ในเขตพื้นที่เทศบาลนครอุดรธานี และที่ อ.วังสามหมอ ต่อจากนั้น คณะของ ผบ.ตร.ก็เดินทางไปดูสถานที่ตั้งการค้าประเวณี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุด ทางต้นสังกัดตำรวจภูธรภาค 4 ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามาร ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ขจรฤทธิ์ วงษ์ราช รอง ผกก.สส.และ พ.ต.ท.สุมิตร นันท์สถิตย์ รอง สวป. ให้มาช่วผฏิบัติราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.2558 เป็นต้นไป