“สมยศ” เดินสายเยี่ยม บก.ภ.จว.อุดรธานี-หนองคาย ย้ำนโยบายพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จี้ปราบปรามการค้ามนุษย์-ค้าประเวณี-ลักลอบเข้าเมือง ชี้เมืองอุดรบกพร่องปล่อยมีการค้ากามเด็ก เตรียมจัดเวทีเสวนาระดมความเห็นตำรวจปฏิรูปองค์กร
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (30 ม.ค.) ที่บก.ภ.จว.อุดรธานี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ตรวจเยี่ยมและติดตามการปฏิบัติงาน มอบขวัญกำลังใจแก่ตำรวจในพื้นที่ โดยมี พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผบช.ภ. 4 พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี และหัวหน้าสถานีตำรวจใน จ.อุดรธานี ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ นอกจากมอบนโยบาย ตรวจเยี่ยม บก.ภ.จว.อุดรธานีแล้วยังได้เดินทางไปยัง บก.ภ.จว.หนองคาย เพื่อมอบนโยบายและตรวจเยี่ยมด่านตรวจคนเข้าเมือง หนองคาย สะพานมิตรภาพไทย-ลาว
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ขอย้ำนโยบายตามวิสัยทัศน์พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และเป็นที่รักของประชาชน โดยต้องมอบความรัก สร้างความศรัทธา และความผาสุกแก่ประชาชน สำหรับนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 8 ด้าน โดยเฉพาะการพิทักษ์สถาบัน ตำรวจทุกคนพึงปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม รวมทั้งนโยบาลรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
“สิ่งแรกที่อยากจะบอก คือ ปัญหาที่รัฐบาลเน้นย้ำเรื่องรัฐบาลสหรัฐอเมริกาจัดปัญหาการค้ามนุษย์ของไทยในอันดับเทียร์ 3 ซึ่งเกิดจากการค้ามนุษย์ ค้าแรงงาน การค้าประเวณี โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ผมตั้งใจมาย้ำตรงนี้ และบังเอิญ 2 วันที่ผ่านมามีการจับกุมการค้าประเวณีที่จ.อุดรธานี ที่สำคัญมีเด็กอยู่ด้วย ตรงนี้ถือเป็นความบกพร่อง ผิดพลาด ผมเตือนแบบพี่ๆน้องๆ อะไรที่ไม่ควรให้มีก็อย่าให้มี ทุกเรื่องมีการตรวจสอบ”
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตนได้รับข้อมูลตรง อะไรที่บอกให้แก้ไขแล้วไม่ได้รับการแก้ไขจะสร้างปัญหาให้กับท่าน ขณะนี้หน่วยงานความมั่นคงอื่นตรวจสอบกันไปมา ใช่ว่าทหารมาจับผิดเรา เขาก็ตรวจสอบกันเองด้วย ขอให้คิดและเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่การจับผิด เขาทำหน้าที่ ขณะเดียวกันทางทหารก็ขอความร่วมมือให้เราตรวจสอบทหารด้วย ฝ่ายความมั่นคงอื่นตรวจสอบกันเองทั้งนั้น เลิกคิดว่ากำลังถูกกลั่นแกล้งจับผิด ให้คิดว่าทุกคน ทุกหน่วยต้องอยู่บนนโยบายรัฐบาล หากเราไม่ได้ทำผิดจะกลัวอะไร
สำหรับปัญหาการค้ามนุษย์ถือเป็นวาระเร่งด่วน ต้องทำให้ได้ผล โดยเฉพาะ จ.หนองคาย เป็นเมืองชายแดน มีปัญหาลักลอบเข้าเมืองเพื่อเดินทางต่อไปยังจังหวัดชั้นใน ทั้งโดยสมัครใจและบังคับ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการค้ามนุษย์ ทั้งแรงงานผิดกฎหมายและค้าประเวณี ดังนั้นทุกหน่วยในพื้นที่ต้องร่วมกันทำงานด้านการข่าว ร่วมปฏิบัติเพื่อยับยั้งปัญหา ตนเชื่อว่าหากทุ่มเทตั้งใจจะสามารถลดระดับความรุนแรงของปัญหาในภาพรวมของประเทศได้อย่างดี
“หากตำรวจตั้งใจทำงานดีขึ้นจะช่วยลดกระแสการปฏิรูปตำรวจ เพราะหากตำรวจไม่ปฏิรูปการทำงานของตัวเองก่อน ก็จะถูกปฏิรูปโดยคนนอกที่มีทัศนคติไม่ดีต่อตำรวจอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลานั้นเราจะต้องพบกับความเจ็บปวดมากกว่าปฏิรูปตัวเองหลายเท่านัก ผมไม่คาดโทษ ไม่ขู่ลงโทษ แต่จะขอความร่วมมือจากทุกคน เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของตำรวจ ให้ยืนหยัดในสังคมอย่างมีเกียรติ ศักดิ์ศรี และภาคภูมิใจ สำคัญที่สุดพี่น้องประชาชนต้องได้รับประโยชน์”
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตำรวจเองต้องมีส่วนแสดงความคิดเห็น เพราะเชื่อมั่นว่าไม่มีใครรู้จักตำรวจดีเท่าตำรวจด้วยกันเอง จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะทำงานเปิดรับฟังความคิดเห็นจากตำรวจทั่วประเทศ โดยเร็วๆ นี้จะมีการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ตำรวจ นักวิชาการ ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จ.นครปฐม เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการปฏิรูปตำรวจต่อไป
“ผมเชื่อว่าคนที่กำลังมาปฏิรูปตำรวจหลายคนไม่รู้จักตำรวจจริง และมักคิดว่าเราหวงอำนาจ ซึ่งไม่จริง เราอยากถ่ายโอนภารกิจให้บางหน่วยที่ต้องการ อยากยกให้เลย เอาไปบริหาร แต่ต้องเอาไปทั้งอำนาจและหน้าที่ ใช่เอาแต่อำนาจ แต่ทิ้งภาระหน้าที่ให้เรา ผมจะใช้วิกฤตที่เรากำลังถูกปฏิรูป ชี้แจงปัญหาและข้อจำกัดของเราให้สังคมรับทราบ ไม่ใช่อะไรก็ลงที่เรา กล่าวหาเราว่าไม่ดี นี่คือโอกาสดี อย่าตกใจกลัวการปฏิรูป หากตำรวจเราไม่ใช่มนุษย์พันธุ์พิเศษ บางอย่าเราทำไม่ได้หรอก ผมจะบอกคนมาปฏิรูป ว่าจะทำอย่างไรก็ได้ให้ตำรวจปลอดจากการเมือง ทำให้หลุดพ้นการครอบงำ การแทรกแซงทางการเมือง หากไม่ทำตรงนี้ถือว่าไม่จริงใจ ขอให้ไปทำมาแก้ตรงนี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นเราทำเอง”
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ขณะเดียวกันตำรวจต้องปรับปรุงตัว ทำหน้าที่ตำรวจให้ประชาชนพึงพอใจ ยอมรับ ศรัทธาในตัวเราให้ได้ ที่เป็นปัญหาทุกวันนี้เพราะเขาไม่เชื่อใจ ไม่ศรัทธา ตราบใดที่เขาไม่เชื่อใจ ไม่ศรัทธา ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ โลกมีการเปลี่ยนแปลงเป็นพลวัต เราจะเป็นตำรวจโบราณไม่ได้ คิดทำแบบเก่าไม่ได้แล้ว ทุกวันนี้พูดอะไรแล้วคนเขาไม่เชื่อ เพราะเราทำตัวไม่ให้เขาเชื่อถือเอง ถ้าเราไม่เปลี่ยนตัวเอง เขาก็มาเปลี่ยนแปลงเรา เราปรับที่ตัวเราก่อน อย่าโทษคนอื่น ถ้าวันไหนประชาชนเชื่อถือศรัทธาตำรวจ วันนั้นจะเป็นวันที่เราทำอะไรก็ได้ วันนี้ตนจึงพูดเปิดอก ขอ 2 สิ่ง คือ ทำให้เราปลอดจากการแทรกแซงจากการเมือง เอาการเมืองออกไปเลย ไม่ใช่ตำรวจไม่ต้องมายุ่ง ออกไปเลย ทำให้ได้ก่อน ทำไม่ได้ไม่ต้องมาปฏิรูปปฏิรูป พูดง่ายๆ หัวโต๊ะ ก.ตร.(คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ) ต้องไม่ใช่บุคคลอื่น ต้องเป็นตำรวจที่นั่งหัวโต๊ะเท่านั้น
พล.ต.อ.สมยศกล่าวด้วยว่า จ.อุดรธานี อยู่ใกล้กับชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่จ.หนองคาย ถูกกำหนดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้รับการพัฒนาในระยะแรก รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี การก่อสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อประเทศจีน สายหนองคาย-กทม., นครราชสีมา-มาบตาพุด ทำให้ความเจริญและประชากรย้ายถิ่นฐาน การลงทุนเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ทำให้อาชญากรรมเพิ่มขึ้น และสลับซับซ้อนขึ้นด้วย อีกทั้งปัญหายาเสพติดซึ่งจำเป็นมากที่ตำรวจทุกคนต้องปรับปรุงตนเองให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ต้องทำงานหนักและยากขึ้น ผู้บังคับบัญชาต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น หาองค์ความรู้ใหม่ ทั้งด้านภาษา เพื่อยกระดับให้ตำรวจมีสมรรถนะ เท่าทันอาชญากรรม และกระแสการพัฒนา