กาญจนบุรี - แรงงานหญิงชาวพม่านอนเฝ้าไร่ให้นายจ้างในพื้นที่ตำบลห้วยเขย่ง อำเภอทองผาภูมิ เปิดประตูบ้านพักออกมาจ๊ะเอ๋กับช้างป่า ตกใจวิ่งหนีจนหกล้มจนช้างวิ่งไล่ตามมาทันใช้เท้ากระทืบเข้าที่ขาซ้ายจนกระดูกหัก โชคดีที่ช้างสีดอ ไม่ใช้เท้ากระทืบซ้ำ
เมื่อเวลา 06.00 น.วันนี้ (26 ม.ค.) นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านห้วยปากคอก หมู่ 7 ต.ห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ว่า เกิดเหตุช้างป่าเข้าไปในไร่จินดา กระทืบคนงานหญิงชาวพม่าได้รับบาดเจ็บขาหัก หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ทภ.3 (โป่งน้ำร้อน) ไปให้ความช่วยเหลือในการนำส่งโรงพยาบาลทองผาภูมิ
ไปถึงพบ นางติน แม่ ไม่มีนามสกุล แรงงานชาวพม่า อายุ 60 ปี นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เนื่องจากถูกช้างสีดอ เพศผู้ อายุประมาณ 20 ปี ใช้เท้ากระทืบเข้าที่ขาซ้ายอย่างแรง จนบวม และกระดูกขาซ้ายหัก เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันตัดลำไม้ไผ่มาดามเอาไว้พร้อมทั้งช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากนั้นจึงรีบนำขึ้นรถยนต์กระบะส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลทองผาภูมิ ล่าสุด อาการปลอดภัย แต่ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสักระยะหนึ่งก่อน
นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เปิดเผยว่า จากการสอบถามเหตุการณ์ทราบว่า ช้างสีดอตัวดังกล่าวได้เดินออกมาจากป่าเข้าไปบ้านพักคนงานในไร่จินดา ซึ่งมีนางติน แม่ อาศัยอยู่ ต่อมา นางติน แม่ ได้เปิดประตูบ้านพักออกมา และได้เจอกับช้างป่าตัวดังกล่าว ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งหนี แต่ช้างได้วิ่งไล่ตาม นางติน แม่ เสียหลักล้ม ช้างจึงใช้เท้ากระทืบเข้าที่ขาซ้ายจนกระดูกหัก โชคดีที่ช้างสีดอไม่ใช้เท้ากระทืบซ้ำ ไม่เช่นนั้นคงเสียชีวิตอย่างแน่นอน โดยหลังก่อเหตุช้างสีดอ ได้วิ่งเข้าไปในป่าตามเดิม
สำหรับพื้นที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ มีช้างป่าอาศัยอยู่ประมาณ 80 ตัว ส่วนใหญ่จะหากินอยู่ตามเทือกเขาตะนาวศรี เป็นป่ารอยต่อตามแนวเขตตะเข็บชายแดนไทย-พม่า ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่า ได้ออกลาดตระเวนในพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และพบช้างป่าอยู่เป็นประจำ ซึ่งปัจจุบัน เป็นช่วงฤดูแล้ง อาจจะทำให้อาหารของช้างที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ช้างสีดอตัวดังกล่าวจึงเดินออกมาหาอาหารนอกพื้นที่ ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันดูแลช้าง หากพบเดินออกมานอกพื้นที่ก็ให้ไล่กลับเข้าไปในป่าตามเดิม
