เชียงราย - กรมทรัพยากรธรณีส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่บ้านดงมะเฟืองตรวจสอบหลุมขนาดใหญ่ที่ยุบตัวลง เพื่อคลายความกังวลให้ชาวบ้าน ระบุสาเหตุเป็นเพราะผลจากคลื่นของแผ่นดินไหวทำให้ดินเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หรือก่อนหน้านี้มีน้ำใต้ดินอยู่แล้วและต่อมาน้ำใต้ดินหรือตะกอนถูกดันขึ้นมาบนผิวดิน
วันนี้ (22 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงรายว่า จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวระดับไม่รุนแรงมากนักในพื้นที่ 3 ครั้งติดต่อกัน โดยวันที่ 13 ม.ค.วัดความแรงได้ 2.1 ริกเตอร์ มีจุดศูนย์กลางที่ อ.แม่สรวย วันที่ 15 ม.ค.มีขนาด 2.7 ริกเตอร์ ศูนย์กลางอยู่ที่ อ.แม่ลาว และล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ม.ค. เมื่อเวลา 19.42 น. ขนาด 2.4 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางอยู่ที่ อ.แม่สรวย
จนทำให้เกิดดินยุบตัวเป็นหลุมกว้างประมาณ 3-4 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร พื้นที่บ้านดงมะเฟือง ม.9 ต.จอมหมอกแก้ว อ.แม่ลาว ซึ่งเคยประสบภัยแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 57 ด้วยความแรงตามมาตราวัดริกเตอร์กว่า 6.7 แมกนิจูด จนได้รับความเสียหายอย่างหนักมาแล้วนั้น
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จอมหมอกแก้วยังคงนำเชือกไปกั้นบริเวณโดยรอบหลุมเอาไว้เพื่อป้องกันอันตรายจากที่มีประชาชนไปดูและอาจจะตกลงไปหรืออาจจะมีการยุบตัวเพิ่มเติม ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพื้นที่เบื้องต้นแล้ว และได้ทำการเก็บข้อมูล ภาพถ่าย ฯลฯ เอาไว้เพื่อนำไปตรวจสอบตามขั้นตอนต่อไป
นายกิติแก้ว กันทอง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านดงมะเฟือง กล่าวว่า ชาวบ้านยังคงมีความกังวลถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากหลุมยุบ ทั้งต่อสัตว์เลี้ยงและผู้คนที่เดินทางเข้ามาดูที่อาจพลัดตกลงไปหรืออาจจะเกิดหลุมขึ้นมาใหม่รวมทั้งความเป็นไปได้ที่อาจจะขยายวงกว้างออกไปอีก เพราะรอยทรุดครั้งนี้เป็นแนวเดียวกันกับความเสียหายที่เคยเกิดจากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ปีที่ผ่านมา
ด้านนายสมใจ เย็นสบาย ผู้อำนวยการส่วนธรณีภัยพิบัติ กรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรณีเกิดดินทรุดตัวดังกล่าวเป็นผลมาจากแผ่นดินไหวโดยคลื่นของแผ่นดินไหวทำให้ดินเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หรือก่อนหน้านี้มีน้ำใต้ดินอยู่แล้วและต่อมาน้ำใต้ดินหรือตะกอนถูกดันขึ้นมาบนผิวดินจึงทำให้ชั้นล่างเกิดช่องว่างและกลายเป็นโพลงไปในที่สุด ทั้งนี้ เมื่อดูจากสภาพพื้นที่แล้วโพรงดังกล่าวถือว่าไม่ใหญ่มากนักและคงไม่เป็นอันตราย
วันนี้ (22 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงรายว่า จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวระดับไม่รุนแรงมากนักในพื้นที่ 3 ครั้งติดต่อกัน โดยวันที่ 13 ม.ค.วัดความแรงได้ 2.1 ริกเตอร์ มีจุดศูนย์กลางที่ อ.แม่สรวย วันที่ 15 ม.ค.มีขนาด 2.7 ริกเตอร์ ศูนย์กลางอยู่ที่ อ.แม่ลาว และล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ม.ค. เมื่อเวลา 19.42 น. ขนาด 2.4 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางอยู่ที่ อ.แม่สรวย
จนทำให้เกิดดินยุบตัวเป็นหลุมกว้างประมาณ 3-4 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร พื้นที่บ้านดงมะเฟือง ม.9 ต.จอมหมอกแก้ว อ.แม่ลาว ซึ่งเคยประสบภัยแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 57 ด้วยความแรงตามมาตราวัดริกเตอร์กว่า 6.7 แมกนิจูด จนได้รับความเสียหายอย่างหนักมาแล้วนั้น
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จอมหมอกแก้วยังคงนำเชือกไปกั้นบริเวณโดยรอบหลุมเอาไว้เพื่อป้องกันอันตรายจากที่มีประชาชนไปดูและอาจจะตกลงไปหรืออาจจะมีการยุบตัวเพิ่มเติม ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพื้นที่เบื้องต้นแล้ว และได้ทำการเก็บข้อมูล ภาพถ่าย ฯลฯ เอาไว้เพื่อนำไปตรวจสอบตามขั้นตอนต่อไป
นายกิติแก้ว กันทอง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านดงมะเฟือง กล่าวว่า ชาวบ้านยังคงมีความกังวลถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากหลุมยุบ ทั้งต่อสัตว์เลี้ยงและผู้คนที่เดินทางเข้ามาดูที่อาจพลัดตกลงไปหรืออาจจะเกิดหลุมขึ้นมาใหม่รวมทั้งความเป็นไปได้ที่อาจจะขยายวงกว้างออกไปอีก เพราะรอยทรุดครั้งนี้เป็นแนวเดียวกันกับความเสียหายที่เคยเกิดจากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ปีที่ผ่านมา
ด้านนายสมใจ เย็นสบาย ผู้อำนวยการส่วนธรณีภัยพิบัติ กรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรณีเกิดดินทรุดตัวดังกล่าวเป็นผลมาจากแผ่นดินไหวโดยคลื่นของแผ่นดินไหวทำให้ดินเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หรือก่อนหน้านี้มีน้ำใต้ดินอยู่แล้วและต่อมาน้ำใต้ดินหรือตะกอนถูกดันขึ้นมาบนผิวดินจึงทำให้ชั้นล่างเกิดช่องว่างและกลายเป็นโพลงไปในที่สุด ทั้งนี้ เมื่อดูจากสภาพพื้นที่แล้วโพรงดังกล่าวถือว่าไม่ใหญ่มากนักและคงไม่เป็นอันตราย