ชาวสวนยางบุรีรัมย์จี้ตรวจสอบวิธีหักค่าความชื้น แฉไม่มีมาตรฐานแค่ใช้มือจับดูเท่านั้น

บุรีรัมย์ - ชาวสวนยางบุรีรัมย์เรียกร้องวิธีตรวจสอบหักความชื้นยางพารา เผยไม่มีมาตรฐานแค่ใช้มือจับดูเท่านั้น ทั้งยังหักเปอร์เซ็นต์สูงตั้งแต่ 9-12 เปอร์เซ็นต์ ซ้ำเติมเกษตรกรที่ประสบปัญหาราคายางตกต่ำอยู่แล้ว ขณะ ผจก.แจงเป็นการหักตามระเบียบ



วันนี้ (8 ม.ค.) ชาวสวนยางพาราในพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ยังทยอยนำยางก้อนถ้วยไปจำหน่ายที่สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านกรวด จำกัด อย่างต่อเนื่อง แม้ราคายางจะตกต่ำ โดยยางแผ่นอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 50-51 บาท ยางก้อนถ้วยกิโลกรัมละ 17-18 บาท ซึ่งเป็นราคาไม่คุ้มทุน แต่จำเป็นต้องขายเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัวและชำระดอกเบี้ยเงินกู้ ธ.ก.ส.ในสิ้นเดือนมีนาคมนี้

ทั้งนี้ เกษตรกรได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบวิธีการขั้นตอนตรวจวัดความชื้นหรือคุณภาพยางที่นำไปขายให้สหกรณ์กองทุนสวนยาง เพราะมองว่าวิธีการตรวจวัดไม่เป็นธรรมต่อเกษตรกร เนื่องจากไม่มีเครื่องวัดที่ได้มาตรฐานเพียงใช้มือจับดูเท่านั้น จึงทำให้เกษตรกรถูกหักความชื้นสูงตั้งแต่ 9-12 เปอร์เซ็นต์ ซ้ำเติมและเอาเปรียบเกษตรกรที่ประสบปัญหาราคายางตกต่ำอยู่แล้ว

นายจรูญ จิตรวงศา อายุ 61 ปี เกษตรกรผู้ปลูกยางบ้านสายโท 2 ใต้ ต.ปราสาท อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า นำยางก้อนถ้วยมาขายที่สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านกรวดจำนวน 300 กิโลกรัม แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำไปชั่งและตรวจวัดความชื้นระบุว่า เหลือเพียง 252 กิโลกรัม ที่เหลือถูกหักเปอร์เซ็นต์ความชื้น

แม้จะทักท้วงถึงวิธีตรวจวัดอย่างไรถึงหักเปอร์เซ็นต์มากขนาดนี้ แต่เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าใช้ความชำนาญโดยใช้มือจับดู ซึ่งมองว่าเอาเปรียบและซ้ำเติมเกษตรกร อยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาตรวจสอบขั้นตอนการตรวจวัดและช่วยเหลือราคายางที่ตกต่ำด้วย

ด้านนายอภิชาต ชูวิตต์ ผู้จัดการสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านกรวด จำกัด ชี้แจงว่า ปกติจะเปิดรับซื้อยางจากเกษตรกรที่เป็นสมาชิกในวันจันทร์และวันพุธ โดยวันจันทร์จะไม่หักเปอร์เซ็นต์ความชื้นยาง แต่จะคิดเป็นค่าจัดการกิโลกรัมละ 50 สตางค์ โดยเกษตรกรจะต้องนำยางมาพักค้างไว้ก่อน 1 คืน ส่วนวันพุธจะใช้วิธีหักความชื้นตามคุณภาพยาง โดยยางแห้งเกรด A จะหักอยู่ที่ประมาณ 3-5 เปอร์เซ็นต์, ยางแห้งเกรด B จะหัก 6-8 เปอร์เซ็นต์ และยางสดหัก 9-15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นระเบียบที่สหกรณ์ฯ ดำเนินการเป็นปกติอยู่แล้วและสมาชิกส่วนใหญ่จะทราบดี

ส่วนวิธีการตรวจวัดความชื้นนั้นยอมรับว่าไม่มีเครื่องตรวจวัดจริง ซึ่งเหมือนกับอีกหลายสหกรณ์ฯ แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเอาเปรียบเกษตรกรแน่นอน แต่หากเกษตรกรอยากได้ราคาดีก็ควรจะตากยางให้แห้ง ไม่ควรนำยางสดมาขายเพราะจะถูกหักความชื้นสูง