xs
xsm
sm
md
lg

บุกตรวจโกดังมันเส้นโครงการรับจำนำมันสำปะหลังที่บ้านโป่ง พบแกลบผสมเพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ราชบุรี - ดีเอสไอ พร้อมกำลังทหารค่ายบุรฉัตร การค้าภายในราชบุรี เจ้าหน้าที่ อคส. บุกตรวจสอบโกดังเก็บมันสำปะหลังเส้น ตามโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง เลขที่ 99/12 หมู่ 19 ตำยบท่าผา อำเภอบ้านโป่ง พบแกลบผสมจำนวนมาก



เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (8 ม.ค.) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักคดีพิเศษภาค พร้อมทหารจากค่ายบุรฉัตร การค้าภายในจังหวัดราชบุรี เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังสต๊อกมันสำปะหลังเส้น เลขที่ 99/12 หมู่ 19 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็น 1 ใน 5 จังหวัดได้แก่ จ.พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี ราชบุรี และ จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ในโครงการรับจำนำที่รัฐฝากเก็บไว้ในโกดังทั่วประเทศ

สำหรับ จ.ราชบุรี ฝากเก็บไว้ที่บริษัท เกษตรพืชผล อินเตอร์เทรด จำกัด ซึ่งมาเช่าโกดังอ้อยเก่า เป็นคลังสินค้าเก็บมันสำปะหลัง 3 โกดัง ซึ่งเป็นการรับมันสำปะหลังเส้นมาจาก จ.กาญจนบุรี เป็นส่วนใหญ่ เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา เกิดเพลิงไหม้ในโกดัง ทางพาณิชย์จังหวัดราชบุรี ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบแต่ไม่สามารถทำได้เพราะโกดังที่ไฟไหม้เกิดความร้อนสูง ทาง อคส. ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ในกองมันสำปะหลังที่เพลิงไหม้มีกระสอบบิ๊กแบ็กบรรจุแกลบจำนวนมาก ทาง อคส.ก็ได้แจ้งความดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องไว้แล้ว

พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักคดีพิเศษภาค เปิดเผยว่า ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ได้ทำหนังสือไปถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ปรากฏว่า ข้อเท็จจริงที่ อคส.ได้ตรวจพบว่ามีการทุจริต จากการพาไปตรวจดู 3-4 จุด มีการนำบิ๊กแบ็กไปกองไว้มหาศาลมาก สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ ในโกดังที่เกิดเพลิงไหม้ที่ได้ดูแล้ว โดยตนจะไปนำเรียนอธิบดีดีเอสไอ เพื่อนำไปประมวลตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่าลักษณะการกระทำอย่างนี้เป็นความผิด ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษน่าจะพิจารณารับไว้เป็นคดีพิเศษได้

การสอบสวนจากการคิดคำนวณปริมาณรถแล้ว เบื้องต้นรถที่วิ่งมีน้ำหนักประมาณ 30 ตันต่อคันนำมาหารกับจำนวนมันเส้นเข้ามาที่โกดังต้องเป็นจำนวนถึง 200-300 คัน เดี๋ยวจะสอบไล่ไปดูจะได้รู้เลยว่ารถมีจำนวนที่วิ่งเข้ามา ถ้าเป็น 20 คัน แต่อีก 180 คัน ได้วิ่งไปที่อื่นหรือไม่ แต่ตรงนี้จะอยู่ในกระบวนการสอบสวนซึ่งคงต้องขอเวลาสักระยะ ภาพเบื้องต้นที่เห็นว่าลักษณะอย่างนี้ความเสียหายของรัฐค่อนข้างรุนแรง ถ้ารวม 5 จังหวัด จะเสียหายประมาณ 400 ล้านบาท

สำหรับของ จ.ราชบุรี เสียหายประมาณ 120 ล้านบาท ประเด็นที่ 2 คือ ทำเป็นบริษัทเดียว จากการตรวจดูเป็นแผนประทุษกรรมของการกระทำความผิดคือ วางแผนไว้ล่วงหน้าทั้งหมด เอามันมากองอยู่แล้ววันดีคืนดีก็เอารถมาตักมันออกแล้วเอาบิ๊กแบ็กมาวางไว้

“ผมไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น เพราะบิ๊กแบ็กลูกหนึ่งหนักประมาณ 1 ตัน มันจะต้องถูกวางก่อนแล้วเอามันมาฉาบไว้ข้างนอก ประเด็นจึงน่าจะอยู่ตรงนี้ที่มีการวางแผนล่วงหน้า อาจจะมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ผมขอเวลาสำหรับการสอบสวน”

พ.ต.ท.ปิยวิชญ์ วงศ์สวัสดิ์ รองผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการทำรายงานการเกิดเพลิงลุกไหม้ลักษณะเดียวกันถึงเป็นจุดเริ่มต้นที่มาเอาอุปกรณ์หนักเข้ามาขุดค้นดู มีเพลิงลุกไหม้ทุกที่ที่เป็นคู่สัญญาของบริษัทนี้ ลักษณะมีเพลิงลุกไหม้อยู่ตลอดเวลาไม่ดับก็เลยเกิดความสงสัยเอาอุปกรณ์หนักมาแยกตรวจสอบอย่างละเอียดจนมาพบบิ๊กแบ็ก ซึ่งได้แยกแจ้งความไปแล้ว มองว่ามีความเชื่อมโยงกันเป็นคู่สัญญาเดียวกัน จึงทำหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ตรวจสอบเรื่องนี้

ส่วนอีก 4 จังหวัดได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนไว้แล้ว แต่ว่าถ้าเป็นคดีพิเศษขึ้นมา ทางดีเอสไอ คงรับมาทั้งหมดถึงรายละเอียดต่างๆ กระบวนการสอบสวนจะไล่มาตั้งแต่เริ่มต้น ประกอบด้วย การประกาศ การมีสัญญา การจะเข้ามาของบริษัทตามระเบียบองค์การคลังสินค้า แต่ต้องดูว่าในกระบวนการหลังจากนั้นคือ เมื่อมีการเริ่มขน เริ่มวางของ มีกระบวนการกระทำความผิดเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่

“รับรองว่าสอบสวนถึงหมด จะมีหัวหน้าองค์การคลังสินค้าเป็นผู้รับผิดชอบเข้ามาตรวจสอบ และจะมีคณะกรรมการระดับจังหวัด ซึ่งก็ต้องไปตรวจสอบดูว่าสมัยนั้นตอนที่ของเข้ามามีผู้ใดบ้าง ซึ่งขอให้เป็นหน้าที่การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าดำเนินการ”
กำลังโหลดความคิดเห็น