หนองคาย - ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ตามรวบ 2 ผู้ต้องหาข่มขืน และชิงทรัพย์หญิงชาวลาวมัดทิ้งไว้ข้างถนน ก่อนดิ้นกระเสือกกระสนออกมาขอความช่วยเหลือ
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (8 ม.ค.) ที่ สภ.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พ.ต.อ.สมชาย สงวนศักดิ์ภักดิ์ดี ผกก.สภ.ท่าบ่อ พ.ต.ท.จักรทิพย์ กูลพฤกษี รอง ผกก.สภ.ท่าบ่อ พ.ต.ท.ทันสมัย พรหมสิทธิ์ รอง ผกก.สภ.ท่าบ่อ พ.ต.ท.นพดล ผลพัฒนา สวป.สภ.ท่าบ่อ พ.ต.ต.สุริยะ เต่าทอง สว.สส.สภ.ท่าบ่อ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ
ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายสกล หรือท็อป ลวงงาน อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 227 หมู่ 9 ต.หนองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย และนายศุรชัย หรือยาว โคตรชมพู อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148 หมู่ 9 ต.หนองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย 2 ผู้ต้องหา 3 คดี คือ พรากผู้เยาว์ ข่มขืน และชิงทรัพย์ พร้อมของกลางมีดปลายแหลม 1 เล่ม รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 7 ม.ค.58 ที่ผ่านมา มีพลเมืองดีพบ น.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ชาวบ้านฮ่อม เมืองสังทอง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ถูกมัดมือมัดเท้าออกมาขอความช่วยเหลือริมถนนมิตรภาพท่าบ่อ-หนองสองห้อง บริเวณบ้านเดื่อหมู่ 9 อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกไปช่วยเหลือ
เมื่อไปถึง น.ส.น้อย อยู่ในอาการหวาดผวาซึ่งพลเมืองดีได้ช่วยแก้มัดมือเท้าออกให้ และใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วนำส่งโรงพยาบาล และร่วมสอบปากคำกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จนทราบว่า หญิงชาวลาวดังกล่าวทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าบ่อ จึงได้ออกสืบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดจนทราบแน่ชัดว่า เป็นนายสกล และนายศุรชัย จึงได้ออกติดตามจนสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านของทั้ง 2 คน เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 7 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา หลังเกิดเพียง 1 ชั่วโมง
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองคนสารภาพว่า พวกตนขี่ได้รถจักรยานยนต์ไปเที่ยวที่ร้านอาหารที่หญิงชาวลาวทำงานอยู่ จากนั้นได้ชวนหญิงชาวลาวออกมาเที่ยวต่อข้างนอก เมื่อถึงบริเวณที่เกิดเหตุ นายศุรชัย หนึ่งในผู้ต้องหาได้ใช้มีดจี้ และได้ร่วมกันข่มขืนที่พุ่มไม้ข้างถนนจนสำเร็จความใคร่คนละ 1 ครั้ง ก่อนจะนำผ้าเช็ดรถมาฉีกทำเป็นเชือกมัดมือ และมัดเท้าหญิงชาวลาวไว้เพื่อไม่ให้หนีพร้อมขู่หากไปบอกใครจะกลับมาฆ่าให้ตาย ก่อนจะพากันกลับบ้าน โดยได้นำโทรศัพท์มือถือ และกำไลข้อมือของเหยื่อไปด้วย จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อหาหนักคือ พรากผู้เยาว์ ร่วมกันกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และร่วมกันชิงทรัพย์ ส่วนหญิงชาวลาวได้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แล้ว
สำหรับ 1 ใน 2 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมครั้งนี้ยังได้สารภาพว่า เคยร่วมกับเพื่อนก่อเหตุอุกฉกรรจ์ในพื้นที่ท่าบ่อ เมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขยายผลเพื่อหาหลักฐานต่อไป