ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทางหลวงสายสำคัญในย่านรอบนอกของนครเวียงจันทน์ ที่สร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย สร้างโดยบริษัทก่อสร้างจากประเทศไทย ยุบไปเป็นแถบยาวในช่วงหนึ่ง ในวันพุธ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา สื่อของทางการออกเตือนให้ระมัดระวังอันตรายขณะสัญจรไปมา และห้ามรถบรรทุกแล่นผ่านโดยเด็ดขาด
ภาพที่เผยแพร่ในวันเดียวกันแสดงให้เห็นทางหลวงสาย 11 ในช่วงหนึ่งที่ตัดเลียบฝั่งแม่น้ำโขง ทรุด และปริแตกเป็ทางยาวประมาณ 50 เมตร ในเขตหมู่บ้านสำพันนา เมือง (อำเภอ) สังทอง ทางทิศตะวันออกของเมืองหลวง
สำนักข่าวสารปะเทดลาว กล่าวว่า เหตุถนนทรุดเกิดขึ้นตอนเช้าวันเดียวกัน หลังจากเกิดฝนตกหนักตลอด 2 วันก่อนหน้านั้น และมีน้ำป่าไหลลงเทือกเขา ปล่องระบายน้ำในบริเวณดังกล่าวระบายไม่ทัน ทำให้น้ำซึมลงลอดพื้นดิน และถนนยุบลงไป ซึ่งในบางช่วงลึกประมาณ 3 เมตร
"ເສັ້ນທາງທີ່ດີນຍຸບ ມີຄວາມຍາວປະມານ 50 ກວ່າແມັດ, ມີຄວາມເລິກປະມານ 3 ແມັດ ເຮັດໃຫ້ການສັນຈອນ ໄປມາຢູ່ບໍລິເວັນດັ່ງກ່າວບໍ່ສະດວກ, ດັ່ງນັ້ນ ຈຶ່ງເຕືອນໃຫ້ຜູ້ທີ່ຈະເດີນທາງໄປມາ ຕາມເສັ້ນທາງດັ່ງກ່າວ ມີຄວາມລະມັດລະວັງ, ສະເພາະລົດບັນທຸກໜັກແມ່ນຫ້າມໄປ ເສັ້ນທາງດັ່ງກ່າວ ເດັດຂາດ ຈົນກວ່າຈະສອມແປງສຳເລັດ" สำนักข่าวออกคำเตือนให้ระวัง จนกว่าจะซ่อมแซมแล้วเสร็จ
นายทองสิง ทำมะวง นายกรัฐมนตรีลาว ได้ไปเป็นประธานพิธีเปิดทางหลวงสายนี้ในวันที่ 15 ส.ค.ปีที่แล้ว หลังการก่อสร้างนาน 38 เดือน ทางลาดยางระยะทางกว่า 80 กิโลเมตรสายนี้ ได้เปิดทางสะดวกในการสัญจรสู่เขตเมืองที่เมื่อก่อนได้ชื่อว่าทุรกันดารมากที่สุดของนครเวียงจันทน์ และเปิดทางไปเชื่อมกับแขวงเวียงจันทน์ที่อยู่ติดกัน กับแขวงไซยะบูลีเข้าสู่ชายแดนไทย ทางด้านนั้นอีกด้วย
จากสภาพเดิมที่เป็นทางดินแดงสายแคบๆ ทางหลวงสาย 11 ก่อสร้าง-ยกระดับขึ้นมาเป็นถนนลาดยาง พร้อมสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กรวม จำนวน 9 แห่ง ด้วยเงินทุน 1,392 ล้านบาท เป็นความช่วยเหลือจากไทยในรูปเงินกู้ระยะยาวดอกเบี้ยต่ำ โดย 30% ของวงเงินเป็นความช่วยเหลือแบบให้เปล่า กลายเป็นเส้นทางคมนาคมที่ดีที่สุดอีกสายหนึ่งในเขตเมืองหลวงของลาว.
