เชียงราย - “ไทย พม่า ลาว จีน” ร่วมประชุมความร่วมมือพัฒนาพื้นที่ชายแดน ผู้ว่าฯ เชียงรายชูไทยเดินหน้าเขตเศรษฐกิจระยะที่ 2 เริ่มเตรียมพร้อมตุลาฯ 58 นี้ดัน 3 อำเภอเชื่อมเพื่อนบ้าน ชวน สปป.ลาว นำเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำคู่เชียงแสน-นาคราชนคร ตีคู่เชียงของ
วันนี้ (7 ม.ค.) นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เดินทางไปร่วมการประชุมความร่วมมือ 8 ฝ่าย เขตชายแดน 4 ประเทศ ลาว-จีน-พม่า-ไทย ครั้งที่ 5 ที่ห้องประชุมโรงแรมหมอนทอง เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว โดยมีผู้บริหารจากแขวงบ่อแก้ว แขวงหลวงน้ำทา แขวงหลวงพระบาง แขวงอุดมไชย สปป.ลาว, เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเขตปกครองตนเองชนชาติไตสิบสองปันนา สป.จีน, ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงตุง ประเทศพม่า และรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เข้าร่วม
ในการประชุมจัดให้แต่ละประเทศรายงานผลการดำเนินการจากความร่วมมือในการประชุมครั้งที่ผ่านมาและข้อเสนอในการประชุมครั้งนี้ ก่อนมีการลงนามความร่วมมือเพื่อผลักดันตามข้อเสนอของแต่ละฝ่ายต่อไป
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า หลังการประชุมร่วมครั้งที่ 4 ไทยได้ดำเนินการตามแนวทางความร่วมมือหลายเรื่อง เช่น คณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษได้เห็นชอบให้ จ.เชียงรายเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพเหมาะสมในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษในระยะที่ 2 ในเขต 3 อำเภอ คือ แม่สาย เชียงแสน และเชียงของ โดยให้เตรียมความพร้อมสำหรับดำเนินการในเดือน ต.ค. 2558 นี้
โดยในขณะนี้ทางคณะที่ปรึกษาได้วางแผนยุทธศาสตร์เชิงพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดให้ อ.เชียงของเป็นประตูการค้าสู่จีนตะวันตกและเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมสู่แขวงหลวงพระบาง ส่วน อ.เชียงแสนเป็นท่าเรือเชื่อมสู่จีนตะวันตก และการท่องเที่ยวสามเหลี่ยมทองคำ ขณะที่ อ.แม่สายเป็นตลาดการค้าชายแดนไทย-พม่า และการท่องเที่ยวเชื่อมกรุงมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวอีกว่า ล่าสุดขณะนี้เชียงรายอยู่ระหว่างการจัดเตรียมพื้นที่ กำหนดสิทธิประโยชน์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวก รองรับการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว เช่น การวางผังพัฒนาพื้นที่ชุมชนชายแดน, การพัฒนาเขตปลอดภาษี, การปรับปรุงตลาดการค้าชายแดน, การพัฒนาศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ศูนย์ขนส่งมวลชน และศูนย์ขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการค้าการลงทุน และลอจิสติกส์ ได้แก่ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ หรือวันสตอปเซอร์วิส การขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจรเชื่อมกับสะพานข้ามแม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 ที่ อ.เชียงของ และท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน และเมื่อเดือน ส.ค. 57 ปีที่ผ่านมาได้จัดงานประชุมลอจิสติกส์และแสดงสินค้าภาคเหนือที่ จ.เชียงราย โดยมีผู้แทนจากกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง หรือจีเอ็มเอส และ 10 จังหวัดภาคเหนือเข้าร่วมด้วย
ส่วนในอนาคตจะพัฒนาศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ การตั้งนิคมอุตสาหกรรมเชียงของ โครงการมอเตอร์เวย์เชียงใหม่-เชียงราย และรถไฟรางคู่เชื่อม อ.เด่นชัย จ.แพร่-เชียงของ เป็นต้น
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ในด้านการท่องเที่ยวนั้น ทางจังหวัดได้จัดตั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตามด่านสำคัญและจัดระบบการใช้บริการรถยนต์ส่วนบุคคลบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ด้วย นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดอย่างต่อเนื่อง เช่น มหกรรมไม้ดอกอาเซียน งานเคานต์ดาวน์ 3 แผ่นดิน งานวัฒนธรรมสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขง การแข่งขันกีฬาและนันทนาการเสริมสร้างความสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขง ส่วนด้านการศึกษา ได้มีการแลกเปลี่ยนบุคลากรและนักศึกษาระหว่างสถาบันการศึกษากับประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวด้วยว่า สำหรับการประชุมครั้งนี้ทาง จ.เชียงรายได้เสนอให้มีการผลักดันอยู่ 3 เรื่อง คือ ด้านการค้า การลงทุน โดยการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษร่วมกัน เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.เชียงแสน กับเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว, เขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.เชียงของ กับโครงการนาคราชนคร เมืองห้วยทราย เป็นต้น รวมถึงมีการปรับเวลาเปิด-ปิดด่านให้สัมพันธ์กัน และยกระดับด่านให้อยู่ในระดับเดียวกันด้วย
ในด้านการท่องเที่ยว ก็ขอให้ทุกฝ่ายได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจและทำเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อม 4 ชาติ ส่วนด้านอื่นๆ เช่น พัฒนาคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร สาธารณสุขชายแดน เป็นต้น
อนึ่ง สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงรายแจ้งว่า มูลค่าการค้าชายแดนระหว่าง จ.เชียงราย กับจีนตอนใต้ พม่า และ สปป.ลาว ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย.ที่ผ่านมามีมูลค่าการค้ารวม 37,214.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3,372.66 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออกรวม 32,998.93 ล้านบาท และนำเข้ารวม 4,215.86 ล้านบาท