บุรีรัมย์ - รอง ผบช.ภาค 3 ลงพื้นที่ติดตามเร่งรัดคดีฆ่าโหดสาวเจ้าของร้านมินิมาร์ททิ้งศพเปลือยคาห้องครัวที่บุรีรัมย์ พุ่งเป้า 3 ประเด็น ข่มขืน ประสงค์ต่อทรัพย์ และขัดแย้งส่วนตัว ล่าสุดพบเบาะแสเพิ่มสุนัขตายปริศนา 1 ตัว ส่งซากผ่าพิสูจน์ ทั้งในท้องที่เกิดเหตุมีคดีข่มขืน 2 ราย เตรียมเรียกเหยื่อสอบสวนหาตัวคนร้าย คาด 1 เดือนคลี่คลายคดี
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (5 ม.ค.) พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลสาย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) ได้ลงพื้นที่ติดตามเร่งรัดคดีฆ่าโหด น.ส.จิตราวดี สวรรค์โพธิ์งาม หรือ บี อายุ 30 ปี เจ้าของร้านมินิมาร์ท “บีเซเว่น” ตั้งอยู่เลขที่ 100 ม.4 ต.ปะคำ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ริมถนนสายปะคำ-โนนดินแดง เมื่อกลางดึกวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ทิ้งศพเปลือยคาห้องครัว ซึ่งถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน
โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ พล.ต.ต.บุญจันทร์ได้ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.สุวรรณ์ เอกโพธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อรับฟังรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และความคืบหน้าเกี่ยวกับแนวทางการสืบสวนสอบสวน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่พุ่งเป้าไปที่ 3 ประเด็น คือ ฆ่าข่มขืน ประสงค์ต่อทรัพย์ และขัดแย้งส่วนตัว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบเบาะแสเพิ่มเติม มีสุนัขที่ผู้เสียชีวิตเลี้ยงไว้ 4 ตัว ตายปริศนา 1 ตัว ซึ่งขณะนี้ได้ส่งซากสุนัขให้ทางปศุสัตว์ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายว่าเกิดจากการถูกวางยาหรือถูกทำร้าย และพบว่าหลังวันเกิดเหตุมีผู้ที่ถูกสุนัขกัดเข้ารักษาที่โรงพยาบาล 2 ราย ซึ่งจะได้เรียกตัวมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมหรือไม่
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนยังพบว่าในท้องที่เกิดเหตุเคยมีคดีข่มขืนกระทำชำเราพร้อมทั้งข่มขู่จะทำร้ายเหยื่อมาแล้ว 2 รายเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดต่อประสานเหยื่อมาให้ข้อมูลว่าจะเชื่อมโยงกับคดีฆาตกรรมในครั้งนี้หรือไม่ เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
พล.ต.ต.บุญจันทร์ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวและข้อมูลเบาะแสคนร้ายอย่างละเอียดและต่อเนื่อง พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนพื้นที่ใกล้เคียงช่วยแจ้งข้อมูลเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ เพื่อจะได้นำไปสู่การติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุฆาตกรรมโหดในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพราะถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งคาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนจะสามารถคลี่คลายคดีดังกล่าวได้