พระนครศรีอยุธยา/อ่างทอง - การจราจรบนถนนพหลโยธิน ช่วงแยกสู่ประตูภาคอีสาน และภาคเหนือรถเริ่มมากขึ้น ขณะที่บนถนนมิตรภาพมุ่งหน้านครราชสีมา มุ่งหน้าสู่จังหวัดทางภาคอีสาน มีปริมาณรถยนต์หนาแน่นตลอดทั้งสาย จนเจ้าหน้าที่ต้องเปิดช่องทางพิเศษ ผบก.ทล.เผยการจราจรในเส้นทางสายเหนือยังเคลื่อนตัวได้ ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค่อนข้างติดขัด จึงเปิดเส้นทางพิเศษถนนมิตรภาพเพื่อระบายรถ
เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (28 ธ.ค.) ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปริมาณรถที่มุ่งหน้าสู่ประตูภาคอีสาน และภาคเหนือที่บริเวณหน้าบริษัทมินิแบ กม.51 ถนนพหลโยธิน ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน ปริมาณรถมากเคลื่อนตัวด้วยความเร็วเฉลี่ย 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บางช่วงมีการชะลอตัวเล็กน้อยเนื่องจากรถขวาสุดมีการเปลี่ยนเลนกะทันหันทำให้มีการเบรกรถชะลอตัว
ส่วนสภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพ ช่วงผ่านจังหวัดนครราชสีมา มุ่งหน้าสู่จังหวัดทางภาคอีสาน ยังคงมีปริมาณรถยนต์หนาแน่นตลอดทั้งสาย รถยนต์ชะลอตัวทำความเร็วได้ไม่ถึง 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สลับกับหยุดนิ่งเป็นระยะ ส่งผลให้การจราจรบนถนนมิตรภาพติดขัดยาวเหยียด มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดช่องทางพิเศษ 2 ช่วงบนถนนมิตรภาพ ช่วงแรกตั้งแต่เขตอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ไปจนถึงบริเวณหน้าฟาร์มโชคชัย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นระยะทางยาวกว่า 10 กิโลเมตร และช่วงถนนมิตรภาพบายพาสเลี่ยงเมือง เขตตำบลจอหอ อำเภอเมืองนครราชสีมา ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เพื่อเร่งระบายการจราจร และปริมาณรถที่สะสม ซึ่งคาดว่าสภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพจะหนาแน่นต่อเนื่องไปจนถึงช่วงค่ำของคืนนี้
ส่วนสภาพการจราจรบริเวณถนนสายเอเชียทางด้านขาขึ้นภาคเหนือตลอดสาย ตั้งแต่เขตอำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปจนถึงเขตติดต่อของอำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่กันอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว และรถโดยสารประจำทาง สภาพการจราจรมีความหนาแน่นมากกว่าช่วงตอนเช้าที่ผ่านมา ส่งผลทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้า ใช้ความเร็วได้ประมาณ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งระบายรถให้เคลื่อนตัวได้อย่างต่อเนื่องไม่ให้หยุดชะงัก
ขณะที่สถานีบริการน้ำมัน และก๊าซต่างๆ ได้มีประชาชนแวะเข้าใช้บริการกันอย่างหนาแน่นในช่วงพักหยุดรถ พร้อมทั้งซื้อของฝากเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้าน และยังมีประชาชนที่จอดรถพักผ่อนหลับนอน และรับประทานอาหารกันไปตลอดทาง พบบางส่วนได้ใช้บริเวณศาลาที่พักริมทางของกรมทางหลวงเป็นที่พักรับประทานอาหารในครอบครัวกันอย่างอบอุ่น ประชาชนส่วนใหญ่มีหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เนื่องจากใช้เวลาในวันหยุดยาวเพื่อเดินทางออกไปท่องเที่ยว หรือกลับไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ที่ตนเองเคารพรักกันต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้การจราจรทางเส้นทางสายเหนือยังเคลื่อนตัวได้แต่จะติดขัดในช่วงเส้นทางต่างระดับบางปะอิน บริเวณ ต.เชียงรากน้อย จึงแนะนำประชาชนเลี่ยงไปใช้เส้นทางบางบัวทอง-สุพรรณบุรี ผ่านไปทาง อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เชื่อมต่อไป จ.นครสวรรค์ แทน
ส่วนการเดินทางไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น การจราจรติดขัดสะสมมา 3 วันแล้ว ตำรวจทางหลวงจึงเปิดช่องทางการจราจรพิเศษเป็นระยะบริเวณเส้นทาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ไปยัง จ.นครราชสีมา เพื่อให้การจราจรเคลื่อนตัวไปได้ แต่แนะนำให้ประชาชนเลี่ยงไปใช้ถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-ปักธงชัยแทน เพราะการจราจรสามารถเคลื่อนตัวไปได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่าในช่วงวันที่ 4-5 ม.ค.58 ที่ประชาชนเดินทางกลับจากต่างจังหวัดมายังกรุงเทพมหานคร จะทำให้การจราจรกลับมาหนาแน่นขึ้นอีกครั้ง
ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ยืนยันว่า ตำรวจทางหลวงจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น และประชาชนสามารถแวะพักจุดบริการตำรวจทางหลวง 196 จุดทั่วประเทศ หรือสอบถามเส้นทางได้ทางสายด่วน 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง