นายอำนวย ฤทธิ์รงค์ ผู้อำนวยการสำนักแขวงการทางนครราชสีมาที่ 2 เปิดเผยถึงการจัดระบบการเดินทางกลับภูมิลำเนาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือปริมาณรถที่จะผ่าน จ.นครราชสีมา ว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อร่วมฉลองเทศกาลปีใหม่กับครอบครัวในพื้นที่ภาคอีสานจำนวนมาก ดังนั้นจึงได้วางมาตรการในการเตรียมรับมือกับปริมาณรถที่ใช้สัญจรจำนวนมาก คาดว่าจะมีประชาชนใช้รถจำนวนมากในช่วงวันที่ 26-28 ธันวาคมนี้ และจะมีการเดินทางอีกครั้งในวันที่ 30 ธันวาคม ดังนั้น จึงได้มีการตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงวันที่ 5 มกราคม 2558 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 10 วัน
สำหรับการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนนั้น ทางแขวงฯ ได้มีการจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ทั้งสิ้น 7 หมวดการทาง รวมจำนวนกว่า 200-300 คน โดยจะมีการแบ่งการทำงานที่เป็นกะๆ ละ 10-15 คน ตลอดเส้นทางถนนมิตรภาพ ตั้งแต่ อ.หมวกเหล็ก จ.สระบุรี ผ่านเข้ามายัง จ.นครราชสีมา และเส้นทางสาย 201 ที่จะมุ่งหน้าออกไปทาง จ.ชัยภูมิ ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งทุกหมวดการทางที่ได้เตรียมไว้ จะต้องมีอุปกรณ์ในการช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นกรวยยาง สัญญาณไฟ พร้อมทั้งได้มีการจัดหน่วยช่วยเหลือเคลื่อนที่ โดยได้มีการจัดเตรียมรถลากจูงขนาดเล็ก รถปะยาง และชุดซ่อมเครื่องยนต์เบื้องต้นไว้ ช่วยเหลือประชาชนในการเดินทาง โดยการเดินทางในแต่ละปี บริเวณที่จะมีปริมาณรถยนต์สะสมเป็นจำนวนมากนั้น คือ บริเวณทับกวาง มาถึง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งเป็นบริเวณขึ้นเขา ก่อนเข้าสู่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่จะมีปริมาณรถสะสมเกิดจากการชะลอตัว เนื่องจากบริเวณดังกล่าวนั้น เป็นช่วงที่ขึ้นเขา จะทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้า แต่หากพบว่ามีปริมาณรถหนาแน่น จะทำการเปิดช่อทางการจราจรพิเศษ เพื่อระบายปริมาณรถที่สะสม
นายอำนวย กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนที่ต้องการเดินทางสู่ภาคอีสาน และต้องการทางเลี่ยง หรือต้องการรู้สภาพการจราจร สามารถสอบถามเส้นทางที่สายด่วนกรมทางหลวง หมายเลข 1586 หากจะเดินทางสู่ภาคอีสาน แต่ไม่อยากเดินทางผ่านถนนมิตรภาพ ขอแนะนำให้ใช้เส้นทางสาย 21 ผ่าน จ.สระบุรี เข้า อ.พุแค ออกไปยัง อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี แล้วตัดกับเส้นทาง 2256 เข้า อ.ลำนารายณ์ จ.นครราชสีมา ก่อนที่จะตัดกับเส้นทาง 201 อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา แล้วเลี้ยวขวาออกชัยภูมิ เพื่อมุ่งหน้าออกสู่ จ.ขอนแก่นได้ ซึ่งเส้นทางสายเลี่ยง มีระยะทางเพิ่มขึ้นจากเดิมเพียง 65 กิโลเมตร
สำหรับการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนนั้น ทางแขวงฯ ได้มีการจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ทั้งสิ้น 7 หมวดการทาง รวมจำนวนกว่า 200-300 คน โดยจะมีการแบ่งการทำงานที่เป็นกะๆ ละ 10-15 คน ตลอดเส้นทางถนนมิตรภาพ ตั้งแต่ อ.หมวกเหล็ก จ.สระบุรี ผ่านเข้ามายัง จ.นครราชสีมา และเส้นทางสาย 201 ที่จะมุ่งหน้าออกไปทาง จ.ชัยภูมิ ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งทุกหมวดการทางที่ได้เตรียมไว้ จะต้องมีอุปกรณ์ในการช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นกรวยยาง สัญญาณไฟ พร้อมทั้งได้มีการจัดหน่วยช่วยเหลือเคลื่อนที่ โดยได้มีการจัดเตรียมรถลากจูงขนาดเล็ก รถปะยาง และชุดซ่อมเครื่องยนต์เบื้องต้นไว้ ช่วยเหลือประชาชนในการเดินทาง โดยการเดินทางในแต่ละปี บริเวณที่จะมีปริมาณรถยนต์สะสมเป็นจำนวนมากนั้น คือ บริเวณทับกวาง มาถึง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งเป็นบริเวณขึ้นเขา ก่อนเข้าสู่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่จะมีปริมาณรถสะสมเกิดจากการชะลอตัว เนื่องจากบริเวณดังกล่าวนั้น เป็นช่วงที่ขึ้นเขา จะทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้า แต่หากพบว่ามีปริมาณรถหนาแน่น จะทำการเปิดช่อทางการจราจรพิเศษ เพื่อระบายปริมาณรถที่สะสม
นายอำนวย กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนที่ต้องการเดินทางสู่ภาคอีสาน และต้องการทางเลี่ยง หรือต้องการรู้สภาพการจราจร สามารถสอบถามเส้นทางที่สายด่วนกรมทางหลวง หมายเลข 1586 หากจะเดินทางสู่ภาคอีสาน แต่ไม่อยากเดินทางผ่านถนนมิตรภาพ ขอแนะนำให้ใช้เส้นทางสาย 21 ผ่าน จ.สระบุรี เข้า อ.พุแค ออกไปยัง อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี แล้วตัดกับเส้นทาง 2256 เข้า อ.ลำนารายณ์ จ.นครราชสีมา ก่อนที่จะตัดกับเส้นทาง 201 อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา แล้วเลี้ยวขวาออกชัยภูมิ เพื่อมุ่งหน้าออกสู่ จ.ขอนแก่นได้ ซึ่งเส้นทางสายเลี่ยง มีระยะทางเพิ่มขึ้นจากเดิมเพียง 65 กิโลเมตร
