อุดรธานี - กาชาดจังหวัดลงพื้นที่มอบเงินและสิ่งของ ช่วยเหลือ “ด.ญ.จารุวรรณ” นักเรียนชั้น ป.6 ผลการเรียนดีมากแต่ยากจน เผยพ่อ-แม่ทิ้งต้องอยู่กับยายและยายทวดที่เป็นมะเร็ง เขียนฎีกาถึง “ในหลวง” ขอรับเงินช่วยเหลือค่าเล่าเรียน เพราะอยากเรียนจบสูงและทำงานหาเงินเลี้ยงดูยาย
รายงานข่าวแจ้งว่า นางทัศนีย์ จันทนปุ่ม รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี พร้อมคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัด ไปยังบ้านเลขที่ 199/21 หมู่ 4 บ้านค่ายเสนีย์ ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อนำเงินสด 3,000 บาท พร้อมถุงยังชีพมอบให้ด.ญ.จารุวรรณ วารุณ อายุ 12 ปี ภายหลัง ด.ญ.จารุวรรณทำหนังสือกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานความช่วยเหลือทุนการศึกษา เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เนื่องจากต้องการเรียนหนังสือชั้นสูงขึ้นไปเพื่อจะได้มีงานทำ หารายได้มาเลี้ยงดูยาย คือ นางภาพิมล ส่วนพ่อและแม่เลิกกัน ต่างฝ่ายไปมีครอบครัวใหม่ ไม่เคยกลับมาดูแล ด.ญ.จารุวรรณและยายอีกเลย
ปัจจุบัน ด.ญ.จารุวรรณเรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนหนองขาม ต.หนองบัว อ.เมือง อุดรธานี ผลการเรียนดีมาก สอบได้ที่ 1 ทุกปี ตั้งแต่ชั้น ป.1-5 เกรดเฉลี่ย 4 นอกจากนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของโรงเรียน ให้เป็นผู้คอยต้อนรับแขกของโรงเรียน และยังเป็นตัวแทนโรงเรียนในด้านกีฬา คือ ฟุตบอล ฟุตซอล และตะกร้อ และเป็นนักดนตรีของวงดุริยางค์ของโรงเรียน
ด.ญ.จารุวรรณเล่าถึงกิจวัตรประจำวันว่า ตื่นมาตอนเช้าต้องเร่งทำงานบ้านทุกอย่าง หลังจากนั้นจะปั่นรถจักรยาน หรือเดินไปโรงเรียนที่อยู่ห่างจากบ้านราว 2 กิโลเมตร ตอนเย็นกลับจากโรงเรียนก็ช่วยยายทำงานบ้าน และที่มีภาระเพิ่มขึ้นตอนนี้ คือ ต้องช่วยยดูแลยายทวดที่เป็นโรคมะเร็ง จากนั้นจึงทำการบ้านและเข้านอน
“หนูอยากเรียนให้สูงๆ เพื่อที่จะมีรายได้เอามาให้ยาย ทุกวันนี้หนูก็ไปรับจ้างทำงานบ้าน หรือซักเสื้อผ้าให้กับเพื่อนบ้าน เพื่อจะได้มีรายได้มาซื้อกับข้าว มีค่าขนมไปโรงเรียน หนูจะได้เงินค่าขนมไปโรงเรียนวันละ 20 บาท บางวันที่ยายไม่มีเงินก็ได้ไม่ถึง”
ขณะที่นางภาพิมล ผู้เป็นยายเล่าว่า สามีได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2546 ก่อนนี้ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป หารายได้มาดูแลเลี้ยงดู ด.ญ.จารุวรรณและ นางคำปี คำมีมิตร อายุ 74 ปี ซึ่งเป็นยายทวดของ ด.ญ.จารุวรรณ ต่อมาเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2557 นางคำปีได้ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง ต้องไปรับยาจากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีเดือนละ 1 ครั้ง ขณะนี้อยู่ในระยะสุดท้าย นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
“ฉันต้องต้องหยุดทำงานรับจ้าง เพราะต้องเฝ้าดูแลนางคำปี ไม่มีเงินรายได้เลย ไหนจะค่ากินค่ายา ค่าใช้จ่ายเล่าเรียนของหลานอีก ต้องหยิบยืมเงินจากเพื่อนบ้านมากกว่า 4 หมื่นบาทแล้ว ความยากลำบากที่เป็นอยู่ ทำให้หลานสาวตัดสินใจเขียนหนังสือกราบบังคมทูลเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะเราไม่รู้จะไปพึ่งพาใคร ก็ได้แต่นึกถึงบารมีของท่าน”
สำหรับการออกเยี่ยมครั้งนี้ เป็นผลมาจากสำนักงานพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เสนอความเห็นไปยังสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด ว่าพิจารณาเห็นว่าครอบครัวนี้มีความเดือดร้อน ยากจนและไม่มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพ เสนอให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยปัญหาทางสังคม (กรณีฉุกเฉิน) และพิจารณาให้ได้รับการสงเคราะห์จากกองทุนคุ้มครองเด็ก เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้แก่ ด.ญ.จารุวรรณต่อไป
