ชัยนาท - ชัยนาทจับมือมูลนิธิวังขนาย และเทคโนฯ พระจอมเกล้าธนบุรี จัดทำโครงการร่วมมือด้านงานวิจัยและพัฒนา ชัยนาทเมืองสีเขียว
เมื่อเร็วๆนี้ ที่ห้องประชุม 503 ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดชัยนาท นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ได้มาเป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือบันทึกความเข้าใจ โครงการความร่วมมือด้านงานวิจัยและพัฒนา ชัยนาทเมืองสีเขียว ซึ่งจัดขึ้นระหว่างจังหวัดชัยนาท, มูลนิธิวังขนาย และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า จังหวัดชัยนาทได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาจังหวัดให้เป็นเมืองสีเขียว มีสภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี จึงได้มีโครงการรณรงค์ปั่นจักรยานให้เพิ่มมากขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เห็นได้จากโครงการที่เกิดขึ้น เช่น โครงการปั่นเปิดเมือง โครงการ Car free day ฯลฯ นอกจากนี้ ประชาชนที่ชื่นชอบในการปั่นจักรยานในจังหวัดชัยนาท ยังได้นัดให้มีการรวมตัวกันทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี ในเวลา 5 โมงเย็น เพื่อปั่นจักรยานไปตามเส้นทางธรรมชาติของแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทางไปกลับประมาณ 30 กม.
สำหรับความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาชัยนาทเมืองสีเขียว จังหวัดได้มีการจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะด้านเพื่อประสานสร้างกลยุทธ์ในการพัฒนา ผลักดันจากข้อมูลการวิจัยไปสู่นโยบายของจังหวัด และแผนการปฏิบัติจริง ผ่านการออกแบบทางด้านผังเมือง องค์ประกอบเมือง สถาปัตยกรรม และการปฏิสัมพันธ์ในเมือง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของจังหวัดชัยนาท ที่ให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ ประชากรมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นทั้งในเรื่องสุขภาพกายและจิตใจ ความสะดวกปลอดภัยในการใช้ชีวิต ซึ่งการส่งเสริมให้เกิดการใช้จักรยานและการเดินเท้าเป็นทางเลือกในการสัญจรหลักนั้นนับเป็นเรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่ง เพราะจะทำให้ประชาชนมีสุขภาพดี สามารถลดมลพิษจากภายในเมือง ส่งผลให้สังคมโดยรวมมีความสุข
ด้าน นายบุญญฤทธิ์ ณ วังขนาย กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิวังขนาย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางกลุ่มวังขนายได้ให้ความสำคัญต่อการผลิตน้ำตาลที่แตกต่าง โดยเฉพาะการผลิตน้ำตาลออร์แกนิกที่ไร้สารเคมี ซึ่งได้จัดทำอย่างครบถ้วนทั้งกระบวนการ เริ่มต้นตั้งแต่ในเรื่องดิน วิธีการปลูก การใช้ปุ๋ย การผลิตเป็นน้ำตาลที่โรงงาน ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกต่างให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งได้สอดคล้องกับแนวคิดของ จ.ชัยนาท ที่ได้ส่งเสริมให้เกิดการใช้จักรยานเป็นทางเลือกหนึ่งในการสัญจรภายในจังหวัด
กลุ่มวังขนายจึงได้เข้ามาสนับสนุนงานวิจัยในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาสภาพแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดชัยนาทให้เหมาะกับการเป็นเมืองที่ใช้จักรยานและการเดินเท้า ซึ่งเป็นวิธีการสัญจรหลักอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ มูลนิธิวังขนายได้ซื้อจักรยานมือสองคุณภาพดีจากประเทศญี่ปุ่น จำนวน 250 คัน เพื่อมอบแก่โรงเรียนที่ขาดแคลนใน จ.ชัยนาท หลังจากการมอบจักรยานแล้ว ทางมูลนิธิวังขนายจะจัดกิจกรรมกับเยาวชนเกี่ยวกับจักรยานอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ยังได้เชิญ “นิคกับเรย์” สองหนุ่มสายเลือดไทย นักปั่นจักรยานชื่อดัง ที่ได้เดินทางจากลอนดอนมาถึงกรุงเทพฯ ด้วยการปั่นจักรยาน มาถ่ายทอดประสบการณ์ที่แตกต่างตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะสามารถกระตุ้นให้ประชาชนชาว จ.ชัยนาท ได้เกิดแรงบันดาลใจ และหันมาปั่นจักรยานในการสัญจรเดินทางเพิ่มมากขึ้น เพื่อสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต
รศ.ดร.โสฬส สุวรรณยืน รักษาการแทนรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องการสัญจรและการใช้พลังงานทางเลือกเป็นสิ่งหนึ่งที่ได้ให้ความใส่ใจมาโดยตลอด ทางมหาวิทยาลัยฯ มีผู้เชี่ยวชาญและบุคคลากร คณาจารย์ ตลอดจนนักวิจัยจากหลากหลายสาขา ที่ได้ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและวางผังเมือง ผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์การออกแบบปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสังคม ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ผู้เชี่ยวชาญด้านจราจร ซึ่งจากการทำงานร่วมกันของผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ประกอบกับการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และพื้นที่ทางกายภาพ และรูปแบบการสัญจรในชีวิตประจำวัน ทำให้เข้าใจภาพรวมของปัญหา ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม
เมื่อเร็วๆนี้ ที่ห้องประชุม 503 ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดชัยนาท นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ได้มาเป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือบันทึกความเข้าใจ โครงการความร่วมมือด้านงานวิจัยและพัฒนา ชัยนาทเมืองสีเขียว ซึ่งจัดขึ้นระหว่างจังหวัดชัยนาท, มูลนิธิวังขนาย และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า จังหวัดชัยนาทได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาจังหวัดให้เป็นเมืองสีเขียว มีสภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี จึงได้มีโครงการรณรงค์ปั่นจักรยานให้เพิ่มมากขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เห็นได้จากโครงการที่เกิดขึ้น เช่น โครงการปั่นเปิดเมือง โครงการ Car free day ฯลฯ นอกจากนี้ ประชาชนที่ชื่นชอบในการปั่นจักรยานในจังหวัดชัยนาท ยังได้นัดให้มีการรวมตัวกันทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี ในเวลา 5 โมงเย็น เพื่อปั่นจักรยานไปตามเส้นทางธรรมชาติของแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทางไปกลับประมาณ 30 กม.
สำหรับความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาชัยนาทเมืองสีเขียว จังหวัดได้มีการจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะด้านเพื่อประสานสร้างกลยุทธ์ในการพัฒนา ผลักดันจากข้อมูลการวิจัยไปสู่นโยบายของจังหวัด และแผนการปฏิบัติจริง ผ่านการออกแบบทางด้านผังเมือง องค์ประกอบเมือง สถาปัตยกรรม และการปฏิสัมพันธ์ในเมือง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของจังหวัดชัยนาท ที่ให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ ประชากรมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นทั้งในเรื่องสุขภาพกายและจิตใจ ความสะดวกปลอดภัยในการใช้ชีวิต ซึ่งการส่งเสริมให้เกิดการใช้จักรยานและการเดินเท้าเป็นทางเลือกในการสัญจรหลักนั้นนับเป็นเรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่ง เพราะจะทำให้ประชาชนมีสุขภาพดี สามารถลดมลพิษจากภายในเมือง ส่งผลให้สังคมโดยรวมมีความสุข
ด้าน นายบุญญฤทธิ์ ณ วังขนาย กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิวังขนาย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางกลุ่มวังขนายได้ให้ความสำคัญต่อการผลิตน้ำตาลที่แตกต่าง โดยเฉพาะการผลิตน้ำตาลออร์แกนิกที่ไร้สารเคมี ซึ่งได้จัดทำอย่างครบถ้วนทั้งกระบวนการ เริ่มต้นตั้งแต่ในเรื่องดิน วิธีการปลูก การใช้ปุ๋ย การผลิตเป็นน้ำตาลที่โรงงาน ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกต่างให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งได้สอดคล้องกับแนวคิดของ จ.ชัยนาท ที่ได้ส่งเสริมให้เกิดการใช้จักรยานเป็นทางเลือกหนึ่งในการสัญจรภายในจังหวัด
กลุ่มวังขนายจึงได้เข้ามาสนับสนุนงานวิจัยในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาสภาพแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดชัยนาทให้เหมาะกับการเป็นเมืองที่ใช้จักรยานและการเดินเท้า ซึ่งเป็นวิธีการสัญจรหลักอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ มูลนิธิวังขนายได้ซื้อจักรยานมือสองคุณภาพดีจากประเทศญี่ปุ่น จำนวน 250 คัน เพื่อมอบแก่โรงเรียนที่ขาดแคลนใน จ.ชัยนาท หลังจากการมอบจักรยานแล้ว ทางมูลนิธิวังขนายจะจัดกิจกรรมกับเยาวชนเกี่ยวกับจักรยานอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ยังได้เชิญ “นิคกับเรย์” สองหนุ่มสายเลือดไทย นักปั่นจักรยานชื่อดัง ที่ได้เดินทางจากลอนดอนมาถึงกรุงเทพฯ ด้วยการปั่นจักรยาน มาถ่ายทอดประสบการณ์ที่แตกต่างตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะสามารถกระตุ้นให้ประชาชนชาว จ.ชัยนาท ได้เกิดแรงบันดาลใจ และหันมาปั่นจักรยานในการสัญจรเดินทางเพิ่มมากขึ้น เพื่อสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต
รศ.ดร.โสฬส สุวรรณยืน รักษาการแทนรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องการสัญจรและการใช้พลังงานทางเลือกเป็นสิ่งหนึ่งที่ได้ให้ความใส่ใจมาโดยตลอด ทางมหาวิทยาลัยฯ มีผู้เชี่ยวชาญและบุคคลากร คณาจารย์ ตลอดจนนักวิจัยจากหลากหลายสาขา ที่ได้ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและวางผังเมือง ผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์การออกแบบปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสังคม ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ผู้เชี่ยวชาญด้านจราจร ซึ่งจากการทำงานร่วมกันของผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ประกอบกับการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และพื้นที่ทางกายภาพ และรูปแบบการสัญจรในชีวิตประจำวัน ทำให้เข้าใจภาพรวมของปัญหา ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม
