ร้อยเอ็ด - หนุ่มขี่จักรยานยนต์พาเพื่อนนั่งซ้อนท้ายเข้าเมืองตามเมียกลับบ้าน ขากลับพุ่งชนท้ายรถพ่วงยี่สิบสี่ล้อที่จอดอยู่ข้างทางตายคาที่ทั้ง 3 ศพ เผยบรรทุกพ่วงจอดข้างทางโดยไม่เปิดไฟให้สัญญาณทำให้ผู้ตายมองไม่เห็นจนเกิดเหตุสยอง
เมื่อเวลา 02.00 น. ของวันนี้ (23 ธ.ค.) ร.ต.ท.ประกาศ นามเขต พงส.สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถพ่วงยี่สิบสี่ล้อ ซึ่งจอดอยู่ขอบถนนด้านหน้าโรงสีข้าวไทยเพิ่มพูนที่บ้านหนองผักแว่น หมู่ 4 ต.เหนือเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด ทำให้คนขี่จักรยานยนต์ซ้อนกัน 3 คนเสียชีวิตคาที่ทั้งหมด หลังรับแจ้งจึงรีบประสานหน่วยกู้ภัยอโศก
ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ ไอ สีฟ้า คาดสีขาว ทะเบียน ขพท 754 ร้อยเอ็ด สภาพล้อหน้าพับงอ ล้มทับร่างนายจิรพันธุ์ นามมนตรี อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 บ้านดู่อีโต้ หมู่ 10 ต.ธวัชบุรี อ.ธวัชบุรี และร่างนายณัฐวุฒิ โลหะบาล อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 บ้านดู่อีโต้ หมู่ 3 ต.ธวัชบุรี ขณะที่ร่าง น.ส.ปริชาติ ธงยศ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 บ้านแต้ หมู่ 8 ต.ธวัชบุรี กระเด็นอยู่ห่างจากซากจักรยานยนต์ 1 เมตร
สภาพศพทั้ง 3 กะโหลกศีรษะเปิด สมองกระเด็นไปติดที่ท้ายรถพ่วงยี่สิบสี่ล้อ ทะเบียน 87-5017 นครราชสีมา ซึ่งจอดอยู่ขอบถนนที่ถูกรถจักรยานยนต์ชนท้าย หน่วยกู้ภัยอโศกจึงนำร่างทั้งสามคนไปเก็บที่ห้องเก็บศพโรงพยาบาลร้อยเอ็ด เพื่อให้แพทย์นิติเวชชันสูตรตามระเบียบ และรอญาติมารับศพ
นายบุญมี นามมนตรี อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านดู่อีโต้ หมู่ 10 บิดานายจิรพันธุ์ ที่มารับศพ ให้การว่า ก่อนหน้าเกิดเหตุนายจิรพันธุ์ ซึ่งเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตนมีปากเสียงกับ น.ส.ปริชาติ แฟนสาว ซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านที่ท่าอากาศยานจังหวัดร้อยเอ็ด หลังจากนั้นได้ออกไปเที่ยวในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดโดยขอยืมจักรยานยนต์ของตนเพื่อขี่ไปตามหาแฟนสาว
โดยให้นายณัฐวุฒิ ซึ่งเป็นญาติและเป็นคนขับรถแท็กซี่รับจ้างอยู่ใน กทม. ที่กลับบ้านเพื่อไปเก็บเกี่ยวข้าว นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์เป็นเพื่อนเดินทางไปด้วย
คาดว่าหลังจากนายจิรพันธุ์ตาม น.ส.ปริชาติพบแล้วได้ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อน 3 เพื่อเดินทางจะกลับบ้าน แต่เมื่อถึงหน้าโรงสีข้าวไทยเพิ่มพูนจึงชนท้ายรถพ่วงยี่สิบสี่ล้อ ซึ่งมีพยานบอกว่ารถบรรทุกพ่วงยี่สิบสี่ล้อคันดังกล่าวจอดพักโดยไม่เปิดไฟท้าย เป็นเหตุให้ทั้ง 3 ตายคาที่
ขณะที่นายสุรศักดิ์ สงวนพันธ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 2 ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม เป็นคนขับรถบรรทุกพ่วงยี่สิบสี่ล้อ ทะเบียน 9-5017 นครราชสีมา ให้การว่า ได้ขับรถมาจังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อรับสินค้า แต่เดินทางมาถึงตอนหัวค่ำไม่สะดวกต่อการรับสินค้า จึงจอดรถไว้ที่ขอบถนนหน้าโรงสีข้าวไทยเพิ่มพูลเพื่อรอขนของในวันรุ่งขึ้น ซึ่งตอนนั้นไฟฟ้าถนนยังเปิดสว่างแต่มาทราบตอนหลังว่าเมื่อถึงตอนเที่ยงคืนได้มีการปิดไฟฟ้าเพื่อประหยัดพลังงาน ทำให้สถานที่บริเวณนั้นมืด กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว
สำหรับการดำเนินคดีจราจรกับคนขับรถพ่วงยี่สิบสี่ล้อนายสุรศักดิ์หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนก่อนว่าเข้าข่ายที่จะดำเนินคดีตามความผิดมาตราใดต่อไป