บุรีรัมย์ - หนุ่มบุรีรัมย์จบปริญญาตรี อดีตพนักงานห้าง และภรรยา หันมายึดอาชีพขายข้าวจี่ หมูปิ้ง ปลาร้าบอง อาหารยอดฮิตของชาวอีสาน ริมถนนเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เผยช่วงหน้าหนาวขายดีเป็นพิเศษ รายได้พุ่งถึงวันละ 10,000 บาท บางวันปิ้งไม่ทัน ลูกค้ามีทั้งข้าราชการ พนักงานบริษัท และนักเรียน นักศึกษา อุดหนุนเนืองแน่น
วันนี้ (23 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอัครเดช เพิ่มศรี อายุ 28 ปี หนุ่มชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ได้พลิกผันตัวเองจากพนักงานห้างแห่งหนึ่ง พร้อม น.ส.ไข่มุกข์ อินธิเดช อายุ 29 ปี ภรรยา หันมายึดอาชีพขายข้าวจี่ ปลาร้าบอง หมูปิ้ง และเครื่องในไก่ปิ้ง ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านยอดฮิตของชาวอีสาน ด้วยสูตรเฉพาะที่คิดขึ้นเองไม่เหมือนใครรสชาติอร่อยถูกปากผู้บริโภค วางขายอยู่บริเวณริมทางเท้าถนนจิระ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ตั้งแต่เวลา 05.00-10.00 น. ส่วนช่วงเย็นก็จะตั้งขายตามตลาดนัด ตั้งแต่เวลา 17.00-20.00 น.
โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงหน้าหนาว ได้มีลูกค้าทั้งข้าราชการ พนักงานห้าง และนักเรียน นักศึกษา มาซื้อกันอย่างคึกคักจนย่างไม่ทัน โดยเฉพาะข้าวจี่นั้นบางวันไม่ถึงชั่วโมงก็ขายหมดเกลี้ยง ส่วนราคาไม่แพง ข้าวจี่ขายอยู่ที่ไม้ละ 5 บาท หมูปิ้ง เครื่องในไก่ปิ้งไม้ละ 5 บาท ปลาร้าบอง กล่องละ 10 บาทเท่านั้น
สำหรับกลุ่มลูกค้ามีทั้งข้าราชการ พนักงานห้าง ประชาชน และนักเรียน นักศึกษา ทำให้แต่ละวันมีรายได้เฉลี่ย 5,000-6,000 บาท แต่ช่วงหน้าหนาวขายดีเป็นพิเศษ รายได้เพิ่มขึ้นอีกเฉลี่ยวันละกว่า 8,000-10,000 บาท ซึ่งเมื่อหักต้นทุนและค่าใช้จ่ายในครอบครัวแล้วก็เหลือเงินเก็บวันละ 4,000-5,000 บาท หลังจากยึดอาชีพนี้มานานกว่า 3 ปี ถือว่าประสบผลสำเร็จ สามารถเลี้ยงครอบครัวได้โดยไม่เดือดร้อน
นายอัครเดช เพิ่มศรี บอกว่า หลังเรียนจบปริญญาตรี ไปสมัครเข้าทำงานเป็นพนักงานห้างแห่งหนึ่ง ได้ค่าแรงเดือนละประมาณ 7,000 บาท ทำอยู่ได้สักพักก็ลาออกเพราะเงินเดือนไม่พอกับค่าใช้จ่าย ทั้งอยากมีอาชีพเป็นของตัวเอง ไม่ต้องการเป็นลูกน้องใครจึงได้ลาออก จากนั้นหันมาขายข้าวจี่ หมูปิ้ง เริ่มแรกก็ยังขายไม่ประสบผลเท่าไหร่ เพราะยังไม่เป็นที่รู้จักของกลุ่มลูกค้าเท่าที่ควร แต่พอขายได้สักระยะก็มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นที่รู้จักและติดตลาดจนทุกวันนี้ ปัจจุบันได้ตั้งชื่อว่า “ณ เดช ข้าวจี่ หมูปิ้ง”