บุรีรัมย์ - รองผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ พร้อมพาณิชย์จังหวัด การค้าภายในจังหวัด และสรรพสามิต ออกตรวจห้างร้านจำหน่ายกระเช้าของขวัญป้องปรามผู้ประกอบการฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภคช่วงเทศกาลปีใหม่ ย้ำหากตรวจพบหรือมีการร้องเรียนนำสิ่งของเสื่อมคุณภาพและขายแพงเกินความเป็นจริงเอาผิดตามกฎหมาย
วันนี้ (22 ธ.ค.) นายทำนอง ศรีเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร พาณิชย์จังหวัด, นายปรารภ ลิไธสง การค้าภายในจังหวัด และนายสมควร พลอยดี นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการ สรรพมิตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ได้นำเจ้าหน้าที่ออกตรวจห้างร้านจำหน่ายกระเช้าของขวัญทั้งค้าปลีกและส่งในเขตพื้นที่จังหวัด เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 ทั้งการปิดป้ายแสดงราคารายการสินค้าให้ผู้บริโภคมองเห็นอย่างชัดเจน รวมถึงคุณภาพมาตรฐาน และปริมาณสินค้าที่นำไปบรรจุในกระเช้าหรือชุดของขวัญ
พร้อมกันนี้ยังได้ย้ำให้ผู้ประกอบการห้ามไม่ให้นำสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มาบรรจุในกระเช้าของขวัญ หากพบฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการเอาผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ หากตรวจพบว่าผู้ประกอบการห้างร้านใดมีการนำสินค้าเสื่อมคุณภาพมาบรรจุกระเช้า หรือขายแพงเกินความเป็นจริง ก็จะถูกดำเนินการเอาผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ซึ่งจะมีโทษทั้งจำและปรับ
อย่างไรก็ตาม จากการออกสุ่มตรวจห้างร้านจำหน่ายกระเช้าของขวัญในครั้งนี้ยังไม่พบการกระทำผิดแต่อย่างใด แต่พบว่าในปีนี้ราคากระเช้าของขวัญได้ปรับขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยผู้ประกอบการให้เหตุผลว่าเนื่องมาจากสินค้าหลายรายการได้ปรับราคาสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องปรับราคากระเช้าขึ้นตามไปด้วย
นายทำนอง ศรีเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การนำเจ้าหน้าที่ออกตรวจห้างร้านจำหน่ายกระเช้าในครั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ อย่างไรก็ตาม หากตรวจพบว่าห้างร้านใดมีพฤติกรรมเอาเปรียบผู้บริโภค ไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หากจำหน่ายแพงเกินความเป็นจริงก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และหากมีการประวิงหรือปฏิเสธการจำหน่าย ก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากประชาชนผู้บริโภครายใดถูกเอารัดเอาเปรียบสามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและสำนักงานการค้าภายในจังหวัด หรือร้องเรียนผ่านสายด่วนแม่บ้าน 1569 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการเอาผิดผู้ประกอบการห้างร้านดังกล่าวอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้จะมีการออกสุ่มตรวจห้างค้าปลีก ค้าส่ง และร้านค้าตามหมู่บ้าน ตำบล อย่างต่อเนื่องด้วย