อุตรดิตถ์ - ชลประทานอุตรดิตถ์ยอมให้ชาวนา 4 ตำบลสูบน้ำจากแม่น้ำน่านได้ 1 ล้านลูกบาศก์เมตรใส่นาข้าว 10,000 ไร่ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ติดตามการใช้น้ำอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่โรงสูบน้ำด้วยกระแสไฟฟ้าชลประทาน จ.อุตรดิตถ์ ต.บ้านเกาะ อ.เมืองอุตรดิตถ์ นายนราวัฒน์ สร้อยสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านเกาะตาเพชร หมู่ 3 ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วยชาวนาจาก 4 ตำบล คือ ต.บ้านเกาะ ต.วังกะพี้ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ต.ไผ่ล้อม และ ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล ราว 10 คน ร่วมเจรจากับ นายบุณยลักษณ์ ฉลองสัพพัญญู ผู้อำนวยการชลประทาน จ.อุตรดิตถ์ เพื่อขอให้สูบน้ำจากแม่น้ำน่านไปใส่นาข้าวที่กำลังตั้งท้องออกรวงในพื้นที่ 4 ตำบล พื้นที่นาข้าวราว 10,000 ไร่เศษ หลังจากก่อนหน้านี้ชลประทาน จ.อุตรดิตถ์หยุดสูบน้ำตามคำสั่งของกรมชลประทานเนื่องจากปริมาณต้นทุนน้ำในเขื่อนสิริกิติ์มีน้อย
นายบุณยลักษณ์ ผู้อำนวยการชลประทาน จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า เข้าใจในความเดือดร้อนของชาวนาทั้ง 4 ตำบล ชลประทาน จ.อุตรดิตถ์ทำเรื่องขอไปยังกรมชลประทานแล้วได้อนุญาตให้สูบน้ำไปช่วยเหลือได้อีก 7 วัน โดยจะเริ่มสูบวันที่ 18 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป
โดยให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง สูบน้ำได้วันละ 10 ชั่วโมง จะได้น้ำราว 1 ล้านลูกบาศก์เมตร เฉลี่ยจะมีน้ำในนาข้าวระดับที่ไม่เกิน 10 เซนติเมตรจะทำให้ต้นข้าวที่ตั้งท้องได้ผลผลิตไม่เสียหาย หรือหากได้ปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อการเลี้ยงต้นข้าวแล้วก็อาจหยุดสูบก่อน 10 วัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการขโมยน้ำไปใส่ในพื้นที่ที่อยู่นอกเหนือกว่า 10,000 ไร่ ดังนั้นจึงจะให้เจ้าหน้าที่ชลประทานร่วมกับนายนราวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านติดตามการใช้น้ำอย่างใกล้ชิด