ชาวนาอุตรดิตถ์ขู่ยกขบวนปิดศาลากลาง หลังกรมชลฯ หยุดสูบน้ำเข้านา

อุตรดิตถ์ - เกษตรกรชาวนาอุตรดิตถ์โวยชลประทานฯ หยุดสูบน้ำให้ชาวนา ทั้งที่ลงขันบริจาคเงินค่าน้ำมันให้แล้ว 250,000 บาท จนต้นข้าวนับ 10,000 ไร่ใกล้ยืนต้นตาย

นายนราวัฒน์ สร้อยสุวรรณ์ ผู้ใหญ่บ้านเกาะตาเพชร หมู่ 3 ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ชาวนา ต.ไผ่ล้อม ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล ต.วังกะพี้ ต.บ้านเกาะ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ได้ร่วมกันบริจาคเงินได้ราว 250,000 บาทเศษ เพื่อซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงเติมเครื่องสูบน้ำของชลประทานอุตรดิตถ์จำนวน 2 เครื่อง เพื่อสูบน้ำไปใส่นาข้าวของเกษตรกรทั้ง 4 ตำบลที่กำลังทำการเพาะปลูกราว 10,000 ไร่

แต่ต่อมากรมชลประทานกลับสั่งห้ามชลประทานจังหวัดอุตรดิตถ์สูบน้ำจากแม่น้ำน่านไปใส่นาข้าวอีก เนื่องจากน้ำในเขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้อย

หลังจากชลประทานจังหวัดฯ หยุดสูบน้ำ เกษตรกร 4 ตำบลได้เข้าพบนายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อเจรจาขอให้กรมชลประทาน อนุญาตให้สูบน้ำจากแม่น้ำน่านใส่นาข้าวที่กำลังตั้งท้องอยู่ ซึ่งตอนนั้นกรมชลฯยินยอมให้สูบน้ำได้จนถึงสิ้นปีนี้ แต่เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 57 ที่ผ่านมา ชลประทานจังหวัดฯ กลับหยุดสูบน้ำ ทำให้นาข้าวกำลังยืนต้นแห้งตายแล้ว

“ผมจะพาแกนนำไปเจรจากับชลประทาน และทางจังหวัดอีกครั้ง หากไม่สูบน้ำมาช่วยเหลือนาข้าวของเกษตรกรจะยกขบวนเกษตรกรมาปิดศาลากลาง ซึ่งทางทหารคงเข้าใจในความเดือดร้อนของชาวนา ไม่ได้มาชุมนุมเพื่อต่อต้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือทางการเมืองแต่อย่างใด” นายนราวัฒน์กล่าว