เชียงใหม่ - อุปทูตอเมริกา พร้อมกงสุลใหญ่สหรัฐฯ เยี่ยมมูลนิธิเอ็มพลัส พร้อมรับฟังสิทธิเสรีภาพกลุ่มรักเพศเดียวกันในสังคมไทย พร้อมสนับสนุน พ.ร.บ.คู่ชีวิต ความรู้ และเทคโนโลยี ดันการทำงานสิทธิเพศเดียวกัน
นายดับเบิลยู แพทริค เมอร์ฟี่ อุปทูตรักษาการแทน สถานเอกอัครราชทูต สหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมด้วย นายไมเคิล ฮีท กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ และคณะได้เข้าเยี่ยมชมมูลนิธิเอ็มพลัส เลขที่ 142 ซอยชมจันทร์ ถนนเชียงใหม่-ฮอด ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ วานนี้ (12 ธ.ค.) โดยมี นายพงศ์ธร จันทร์เลื่อน ผู้อำนวยการมูลนิธิ พร้อมเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ
นายพงศ์ธร จันทร์เลื่อน ผู้อำนวยการมูลนิธิเอ็มพลัส เปิดเผยว่า กรณีอุปทูตดับเบิลยู แพทริค เมอร์ฟี่ เดินทางมาตรวจเยี่ยมครั้งนี้ โดยหลักใหญ่ใจความคือ มารับฟังสถานการณ์เรื่องการทำงานในด้านสิทธิมนุษยชน และความหลากหลายทางเพศของประเทศไทย ว่า ทางมูลนิธิเอ็มพลัส มีกิจกรรม หรือการทำงานต่อเรื่องนี้อย่างไร และขณะเดียวกัน ก็พูดถึงเรื่องสถานการณ์การทำงานภายใต้ข้อจำกัดทางการเมืองว่า มีโอกาส หรืออุปสรรคในการขับเคลื่อนประเด็นเรื่องกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในสังคมไทยอย่างไร
โดยทางอุปทูตฯ ได้เน้นถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน เรื่องของสิทธิกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในเมืองไทยว่าเป็นอย่างไรบ้าง ประสบปัญหาอะไรบ้าง ในขณะเดียวกัน ก็พูดถึงเรื่องข้อจำกัดเสรีภาพในสภาพการเมืองปัจจุบันนี้มีปัญหาอะไรบ้าง มีเสรีภาพที่จะพูดจะคุย หรือแสดงออกเป็นอย่างไรบ้าง และพูดถึงแนวทางในการขับเคลื่อนอนาคตอย่างไร
โดยเฉพาะขับเคลื่อน พ.ร.บ.คู่ชีวิตภาคประชาชน เราได้มีแนวทางที่จะทำงานเรื่องนี้อย่างไร โดยท่านก็สนับสนุนอย่างมากว่า ควรมี พ.ร.บ.ฉบับนี้ และได้ยกตัวอย่างสถานการณ์ในประเทศสหรัฐอเมริกาเอง ว่า มีหลายรัฐที่พูดถึงเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่ของกลุ่มไหน แต่เป็นของมนุษย์ทุกคนที่จะได้สิทธิเสมอภาพกัน ดังนั้น กฎหมายที่จะออกมานี้ก็แสดงให้เห็นถึงความเสมอภาพของคนรักเพศเดียวกันที่ยังขาดโอกาส ยังขาดสิทธิต่างๆ ที่ยังเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อยู่
นอกจากนี้ ทางอุปทูตฯ ก็ได้เล่าประสบการณ์สิทธิในการแสดงออก หรือการคัมเอาต์ หรือเปิดเผยตัวเองในสังคมอเมริกา ว่า เป็นอย่างไรบ้าง มีการเปรียบเทียบกันเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งขณะนี้ก็มีความก้าวหน้าไปมากมาย คนที่เป็นอเมริกันผิวดำเอง และเป็นกลุ่มรักเพศเดียวกัน ก็เริ่มมีที่ยืนในอเมริกา หลายคนก็เริ่มเปิดเผยตัวเองแก่สาธารณะ เป็นเรื่องสำคัญเป็นเรื่องความก้าวหน้า เป็นเรื่องสิทธิที่ได้รับฟัง
ขณะเดียวกัน ก็ได้ให้กำลังใจพวกเราว่า เรื่องอย่างนี้ไม่ง่าย ทั้งเรื่องการรณรงค์ เรื่องการป้องกันเอดส์ในกลุ่มเกย์กะเทยในสังคมไทย ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร ซึ่งเรื่องการรณรงค์ตรวจเอดส์ เบื้องต้นทางสหรัฐอเมริกา สนับสนุนเรื่องความรู้ เทคโนโลยีต่างๆ หรือเรื่องที่ทางมูลนิธิให้ทางสหรัฐอเมริกาสนับสนุนก็ยินดี