บุรีรัมย์ - ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ป.ป.ส.ภาค 3 และสาธารณสุข บุกจู่โจมตรวจค้นคุกบุรีรัมย์ หลังเจ้าหน้าที่ล่อซื้อ-จับกุมลูกจ้าง อบต.พร้อมพวก ใช้สำนักงานเป็นศูนย์บัญชาการค้าและเสพยา ผลพบโทรศัพท์มือถือ เลขบัญชีธนาคาร เบอร์โทรศัพท์ อุปกรณ์เสพ สิ่งของต้องห้ามหลายรายการ และนักโทษฉี่สีม่วง 2 ราย
เมื่อเวลา 06.30 น. วันนี้ (8 ธ.ค.) พล.ต.ต.สุวรรณ์ เอกโพธิ์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผกก.สภ.เมือง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังกับสารวัตรทหารจากจังหวัดทหารบก เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด อส. ฝ่ายปกครอง ป.ป.ส.ภาค 3 และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ รวมกว่า 100 นายเข้าจู่โจมตรวจค้นยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายภายในเรือนจำจังหวัด ทั้งเรือนนอน สิ่งของเครื่องใช้ และจุดเสี่ยง รวมถึงตรวจค้นร่างกายผู้ต้องขังชายที่คาดว่าจะมีการซุกซ่อนยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย
พร้อมทั้งสุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในผู้ต้องขังชายและหญิงกว่า 1,500 คน เพื่อป้องกันกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดใช้เป็นฐานการจำหน่าย หรือลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปขายให้ผู้ต้องขังในเรือนจำ หลังจากที่ผ่านมาพบว่าการจับกุมผู้ต้องหาค้าและเสพยาเสพติดส่วนใหญ่กว่า 90% เป็นเครือข่ายของผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำแทบทั้งสิ้น
โดยล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อจับกุมลูกจ้าง อบต.พร้อมพวก 7 คน ที่ใช้สำนักงาน อบต.สะแกโพรงเป็นศูนย์บัญชาการในการค้าและมั่วสุมเสพยาเสพติด ซึ่งผู้ต้องหาได้ซัดทอดว่าได้รับยาบ้ามาจากเครือข่ายของผู้ต้องขังในเรือนจำ เช้าวันนี้จึงได้สนธิกำลังเข้าจู่โจมตรวจค้นเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของยาเสพติด
ผลจากการตรวจค้น สามารถยึดโทรศัพท์มือถือซัมซุง 1 เครื่อง ซุกซ่อนอยู่ที่กันสาดหน้าเรือนนอนแดน 3 ห้อง 3/1 หมายเลขบัญชีธนาคาร หมายเลขโทรศัพท์ อุปกรณ์ในการเสพยาเสพติด อาวุธมีด เหล็กที่นำมาดัดแปลงให้เป็นของมีคม และปลายแหลมเพื่อใช้เป็นอาวุธ และสิ่งของต้องห้ามภายในเรือนนอน
ส่วนการสุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดผู้ต้องขัง 150 คน เบื้องต้นพบผู้ต้องขังชายมีปัสสาวะสีม่วง 2 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ส่งให้สาธารณสุขตรวจยืนยันผลอีกครั้งว่ามีสารเสพติดหรือไม่ หากพบผู้ต้องขังรายใดมีสารเสพติดจะดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดเพิ่มเติม พร้อมจะขยายผลถึงผู้ค้าอีกด้วย
นายสุเทพ ชิ้นสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำบุรีรัมย์ กล่าวว่า การตรวจค้นเรือนจำครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลังทหาร เจ้าหน้าที่เรือนจำฝ่ายปกครอง ป.ป.ส.ภาค 3 และสาธารณสุขรวมกว่า 100 นาย ทั้งนี้ ด้านการป้องกันนั้น ทางฝ่ายปกครองจังหวัดบุรีรัมย์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ อส.มาตรวจตรารอบบริเวณเรือนจำวันละ 4 นาย ตลอด 24 ชม. เพื่อป้องกันการโยนยาเสพติดเข้ามาในเรือนจำด้วย
เมื่อเวลา 06.30 น. วันนี้ (8 ธ.ค.) พล.ต.ต.สุวรรณ์ เอกโพธิ์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผกก.สภ.เมือง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังกับสารวัตรทหารจากจังหวัดทหารบก เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด อส. ฝ่ายปกครอง ป.ป.ส.ภาค 3 และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ รวมกว่า 100 นายเข้าจู่โจมตรวจค้นยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายภายในเรือนจำจังหวัด ทั้งเรือนนอน สิ่งของเครื่องใช้ และจุดเสี่ยง รวมถึงตรวจค้นร่างกายผู้ต้องขังชายที่คาดว่าจะมีการซุกซ่อนยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย
พร้อมทั้งสุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในผู้ต้องขังชายและหญิงกว่า 1,500 คน เพื่อป้องกันกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดใช้เป็นฐานการจำหน่าย หรือลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปขายให้ผู้ต้องขังในเรือนจำ หลังจากที่ผ่านมาพบว่าการจับกุมผู้ต้องหาค้าและเสพยาเสพติดส่วนใหญ่กว่า 90% เป็นเครือข่ายของผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำแทบทั้งสิ้น
โดยล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อจับกุมลูกจ้าง อบต.พร้อมพวก 7 คน ที่ใช้สำนักงาน อบต.สะแกโพรงเป็นศูนย์บัญชาการในการค้าและมั่วสุมเสพยาเสพติด ซึ่งผู้ต้องหาได้ซัดทอดว่าได้รับยาบ้ามาจากเครือข่ายของผู้ต้องขังในเรือนจำ เช้าวันนี้จึงได้สนธิกำลังเข้าจู่โจมตรวจค้นเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของยาเสพติด
ผลจากการตรวจค้น สามารถยึดโทรศัพท์มือถือซัมซุง 1 เครื่อง ซุกซ่อนอยู่ที่กันสาดหน้าเรือนนอนแดน 3 ห้อง 3/1 หมายเลขบัญชีธนาคาร หมายเลขโทรศัพท์ อุปกรณ์ในการเสพยาเสพติด อาวุธมีด เหล็กที่นำมาดัดแปลงให้เป็นของมีคม และปลายแหลมเพื่อใช้เป็นอาวุธ และสิ่งของต้องห้ามภายในเรือนนอน
ส่วนการสุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดผู้ต้องขัง 150 คน เบื้องต้นพบผู้ต้องขังชายมีปัสสาวะสีม่วง 2 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ส่งให้สาธารณสุขตรวจยืนยันผลอีกครั้งว่ามีสารเสพติดหรือไม่ หากพบผู้ต้องขังรายใดมีสารเสพติดจะดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดเพิ่มเติม พร้อมจะขยายผลถึงผู้ค้าอีกด้วย
นายสุเทพ ชิ้นสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำบุรีรัมย์ กล่าวว่า การตรวจค้นเรือนจำครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลังทหาร เจ้าหน้าที่เรือนจำฝ่ายปกครอง ป.ป.ส.ภาค 3 และสาธารณสุขรวมกว่า 100 นาย ทั้งนี้ ด้านการป้องกันนั้น ทางฝ่ายปกครองจังหวัดบุรีรัมย์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ อส.มาตรวจตรารอบบริเวณเรือนจำวันละ 4 นาย ตลอด 24 ชม. เพื่อป้องกันการโยนยาเสพติดเข้ามาในเรือนจำด้วย
