นครปฐม - ครบ 900 กิโลเมตรตามฝันหนุ่มพิการหูหนวก ปั่นจักรยานไปกลับพระปฐมเจดีย์-พระนครคีรี และยอดเขาแก่นจันทร์ จังหวัดราชบุรี สุดท้ายนำพระบรมฉายาลักษณ์ “พ่อหลวง” มายังโรงพยาบาลศิริราช พร้อมรวมพลังเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” 3 ครั้ง น้ำตาไหลด้วยความตื้นตัน
วันนี้ (5 ธ.ค.) เมื่อเวลา 03.35 น. นายสิทธิศักดิ์ ทรัพย์ทวีชัย อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114/2 ถนน 25 มกรา (ซอย 5) ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งมีความบกพร่องทางการได้ยินมาตั้งแต่กำเนิด ได้ตั้งใจในการปั่นจักรยานคนเดียวใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม ออกจากองค์พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม มุ่งหน้าสู่พระนครคีรี เขาวัง จังหวัดเพชรบุรี และยอดเขาแก่นจันทร์ จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นการปั่นทั้งหมด 7 ครั้ง ได้ระยะทางกว่า 900 กิโลเมตร โดยกำหนดการปั่นวันสุดท้ายคือวันนี้ (5 ธ.ค.) โดยการนำพระบรมฉายาลักษณ์ และธงชาติติดตัวได้ออกเดินทางด้วยจักรยานคันเดิมมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประทับเพื่อรักษาพระวรกายจากอาการประชวร
นายสิทธิศักดิ์ สื่อสารผ่านการพิมพ์อักษรว่า ตนเองได้ออกเดินทางจากจังหวัดนครปฐม ตั้งแต่ช่วงเวลา 03.35 น. ถึงโรงพยาบาลศิริราชเวลา 05.05 น. ซึ่งท้องฟ้ายังมืด แต่ก็ต้องตกใจเพราะมีคลื่นพสกนิกรมาอยู่แน่นโรงพยาบาลศิริราช และตนได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ที่นำติดตัวมาด้วยออกมาตั้งต่อหน้า และกราบแสดงเจตนาในการปั่นจักรยาน 7 ครั้ง ได้ระยะเกินกว่า 900 กิโลเมตร
“วันนี้เหนื่อยกว่าปกติเพราะรีบเร่งกลัวไม่ทันเวลา และตื่นเต้น และได้ทำสิ่งที่ตั้งใจไว้คือ การได้เปล่งเสียง ทรงพระเจริญ ให้ได้ 3 ครั้ง ด้วยความตั้งใจ แต่เมื่อเริ่มพูดก็รู้สึกตื้นตันใจ น้ำตาไหลออกมาด้วยความสุขอย่างบอกไม่ถูก และมีความรู้สึกรักในหลวงมาก แม้วันนี้จะไม่ได้เห็นพระพักตร์ในใจที่แอบหวังไว้ แต่ก็มีความสุขมากแล้วที่ได้ทำตามฝันได้แม้จะสั้นๆ แต่ก็เต็มที่ทุกวัน เนื่องจากต้องตื่นตี 3 ปั่นจักรยานไปจังหวัดเพชรบุรี กว่าจะกลับมาถึงบ้านที่จังหวัดนครปฐมก็บ่าย เข้าช่วงเย็นแล้วต้องรีบไปช่วยแม่เปิดร้านขายขนมเข้าเกรียบปากหม้อ และสาคูไส้หมูที่ตลาดโต้รุ่งองค์พระปฐมเจดีย์ ขายจนถึง 4-5 ทุ่ม กว่าจะได้นอนก็เที่ยงคืน มีเวลานอนเพียงวันละ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น แต่วันนี้สุขใจมากแล้ว และขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน” นายสิทธิศักดิ์ สื่อสารผ่านการพิมพ์อักษร
นายสิทธิศักดิ์ สื่อสารอีกว่า หลังจากได้่ปั่นจักรยานได้ระยะทางตามกำหนด และได้ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ช่วงระหว่างที่ตนปั่นจักรยานไปโรงพยาบาลศิริราช ตนได้เห็นแสงไฟสวยงามจากสะพานอรุณอมรินทร์ จึงอยากชมความงามจึงได้ขี่จักรยานต่อไปย่านวรจักรเพื่อพักกินข้าว แต่ด้วยความสุขที่ได้ทำตามฝัน จึงขอปั่นจักรยานไปให้ทั่วกรุงเทพฯ ที่มีการจัดสถานที่ และเฉลิมฉลองให้พ่อหลวงสักครั้ง เพราะใจยังตื้นตันก่อนจะปั่นกลับบ้านพักในจังหวัดนครปฐมในช่วงบ่าย และเตรียมกลับมาช่วยแม่เปิดร้านอีกครั้ง ใช้ชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงตามที่พ่อหลวงได้ทรงให้แนวทางต่อไป และจะขอพรให้พรองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววันด้วย