ฉะเชิงเทรา - เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมทหาร นำกำลังบุกทลายร้านลาบกลางเมืองแปดริ้ว หลังเปิดเป็นร้านอาหารสไตล์อีสานบังหน้า แต่ภายในร้านมีหญิงสาวชาวลาวกว่าครึ่งร้อยนั่งบริการแขกที่มาใช้บริการ พร้อมสั่งปิดกิจการทันที และแจ้งข้อหาหนัก “ค้ามนุษย์”
วันนี้ (3 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยกำลัง อส. ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้บุกเข้าตรวจสอบค้นภายในร้านลาบ “เลดี้พริ้ง” และ “ร้านลาบ 108” ริมถนนสายศุภประยูร (315) ฉะเชิงเทรา-พนัสนิคม ด้านข้างเลาะรั้วค่ายทหาร กองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า ต.คลองนา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ที่เปิดให้บริการเป็นในลักษณะของร้านขายอาหารอีสาน แต่ภายในกลับพบว่า มีบรรดาหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มนั่งรอคอยให้บริการต่อแขกเหรื่อที่เข้ามาใช้บริการอยู่ภายในร้านเป็นจำนวนมาก
หลังการเข้าตรวจสอบทั้ง 2 ร้าน ปรากฏว่า สามารถควบคุมหญิงสาวสัญชาติลาวมาได้เป็นจำนวนมากถึงกว่า 50 คน พร้อมของกลางต่างๆ ทั้งขวดเหล้าเบียร์ ถุงยางอนามัย บัญชีการเข้ารอบให้บริการลูกค้า และเงินสด จึงได้ทำการตรวจยึด และประสานกำลังฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ให้นำผู้ต้องหาทั้งหมดมาทำการสอบสวนปากคำยังที่บริเวณศาลาประชาคมเฉลิมพระเกียรติ ด้านข้างศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทราในทันที
นายอนุกูล กล่าวว่า การบุกเข้าตรวจค้นร้านค้าอาหารอีสานในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผ่านทางศูนย์ดำรงธรรม กรมการปกครอง ว่า มีการนำหญิงสาวชาวต่างชาติชาวลาวมาแอบลักลอบเปิดให้บริการ เป็นสถานบริการค้าประเวณีโดยมีการเปิดด้านหน้าร้านเป็นไปในลักษณะของร้านลาบ หรือร้านอาหารอีสาน แต่ภายในกลับมีหญิงสาวสัญชาติลาวคอยให้บริการแก่บรรดานักท่องเที่ยว
เบื้องต้น จึงได้ทำการสั่งปิดกิจการในทันที พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ที่ดูแลร้านว่า “เป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณี ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และรับแรงงานต่างด้าวมาทำงานโดยผิดกฎหมาย” หลังการสอบสวนจะได้ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ดำเนินคดีต่อไปในทันที
