ลมหนาวโชยทำแหล่งท่องเที่ยวเหนือ ทั้งใน-นอกโปรแกรมคึกคักต่อเนื่อง

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งในภาคเหนือคึกคักรับลมหนาว ทั้งภูลังกา เมืองกว๊านพะเยา ม่อนเขาแก้วพระหลอดดอยพระบาท เมืองลำปาง ทุ่งทานตะวันแห่งใหม่อุตรดิตถ์ รวมถึงตลาดแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ชายแดนไทย-พม่า

วันนี้ (1 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสภาพอากาศหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยว ทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในโปรแกรมนำเที่ยวชื่อดัง และแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ทุกจังหวัดในภาคเหนือคึกคักขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น บนดอยภูลังกา วนอุทยานภูลังกา อ.ปง จ.พะเยา ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,720 เมตร ซึ่งล่าสุดเช้าวันนี้อากาศเย็นสบายด้วยอุณหภูมิ 12-13 องศาเซลเซียส มีนักท่องเที่ยวทยอยเข้าเที่ยวชมและสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นบริเวณยอดดอยกันอย่างคึกคัก

โดยนักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมความสวยงามของ “ภูเทวดา” ยอดดอยสูงที่สุดในเทือกเขาสันปันน้ำ ไทย-ลาว และสามารถมองเห็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นจุดชมทะเลเมฆ และหมอกยามเช้า ดวงอาทิตย์ขึ้นลง และดอกไม้ป่าสวยงาม ทั้งดอกโคลงเคลง ข่าดอกแดง เทียนป่า ต้นชมพูภูพานพันธุ์ไม้หายาก

ส่วนบริเวณจุดชมวิวที่ 2 (ม่อนเขาแก้วพระหลอด) บนดอยพระบาท บ้านสบลืน หมู่ที่ 7 ต.ร่องเคาะ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,100 ฟุต ถือเป็นจุดท่องเที่ยวใหม่ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก เริ่มมีประชาชนนักท่องเที่ยวพากันขึ้นไปสัมผัสอากาศที่หนาวเย็น รอชมทะเลหมอก และชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า พร้อมกับถ่ายรูปบริเวณหน้าพระหลอด ซึ่งจะมีฉากหลังเป็นพระอาทิตย์ขึ้นอย่างสวยงามกันแล้ว

ซึ่งวัดแห่งนี้อยู่ในเขตของ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ห่างจากตัวเมืองลำปางประมาณ 60 กิโลเมตร ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก บริเวณบนเขาพระบาทบ้านสบลืนจะเป็นสันเขาที่มีทิวทัศน์สวยงาม ในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 13-16 องศา และมีลมพัดตลอดเวลา รวมถึงมีทะเลหมอกยามเช้า ทั้งยังสามารถมองเห็นพระอาทิตย์โผล่ขึ้นเหนือสันเขาฝั่งตรงข้ามได้อย่างสวยงามอีกด้วย

นอกจากนี้ ในพื้นที่ยังมีแหล่งแกะสลักภาพมนุษย์โบราณ และรอยพระบาทที่มีขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ตามสันเขา และหน้าผาตลอดแนว ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกรมศิลปากรได้เข้าไปสำรวจและสันนิษฐานว่าแหล่งโบราณสถานแห่งนี้น่าจะมีอายุไม่น้อยกว่า 1,000 ปี

ส่วนที่ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งมีตลาดชายแดนทั้งฝั่งแม่สาย และฝั่งท่าขี้เหล็ก ก็มีนักท่องเที่ยวเดินเที่ยวและหาซื้อสินค้าชายแดนกันอย่างคึกคักต่อเนื่อง ซึ่งพบว่าสินค้าที่ขายดีเป็นประเภทเสื้อผ้าเครื่องกันหนาว ถุงเท้า รองเท้า ฯลฯ ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ และราคา ตั้งแต่ระดับสูงหลายพันบาท ลงมาจนถึง 100-200 บาท ซึ่งสินค้าเสื้อผ้านี้ส่วนใหญ่ผลิตในประเทศจีนและพ่อค้าแม่ค้าชายแดนนำออกมาวางจำหน่ายกันอยู่ทั่วไป

ขณะที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นทางผ่านของนักท่องเที่ยวมาตลอดหลายสิบปี ขณะนี้มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เป็นทุ่งทานตะวันของนายธนวรรย์ กันภัย อาจารย์สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ที่ก่อนหน้านี้ลงทุนปลูกทานตะวันบริเวณปากทางเข้าสู่วัดทุ่งเอี้ยง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เพื่อนำเมล็ดมาขาย แต่ปรากฏว่าผลผลิตที่ได้ไม่สมบูรณ์ ขายไม่ได้ จึงหันมาพัฒนาเป็นทุ่งทานตะวันแทน

ล่าสุดขณะนี้ต้นทานตะวันโตขึ้น และออกดอกสวยงามบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่ง ทำให้มีกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวในพื้นที่เข้ามาถ่ายรูปและอัปรูปขึ้นในโลกโซเชียลมีเดีย จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งใน-นอกพื้นที่เข้ามาท่องเที่ยวเพื่อชมความงามของทุ่งดอกทานตะวัน และถ่ายภาพกันอย่างไม่ขาดสาย โดยทางเจ้าของสวนได้เก็บค่าบริการเข้าชมทุ่งดอกทานตะวันในราคาคนละ 10 บาท