เชียงใหม่ - กองทัพภาคที่ 3 สรุปสถานการณ์การตัดทำลายไร่ฝิ่นในพื้นที่ภาคเหนือเพื่อควบคุมการลักลอบปลูกฝิ่น พบอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ยังเป็นพื้นที่ลักลอบปลูกมากที่สุดของประเทศ
วันนี้ (28 พ.ย.) พลโท เกษม ธนาภรณ์ แม่ทัพน้อยที่ 3 รองผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจ ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 ร่วมหารือหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ภาคเหนือ ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ป้องกันจังหวัด และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. พื้นที่ที่มีการลักลอบปลูกฝิ่น เพื่อป้องกันและควบคุม การลักลอบปลูกฝิ่น
ทั้งนี้ พบว่ายังมีการลักลอบปลูกฝิ่นมากถึง 65 แปลง กระจัดกระจายในพื้นที่จังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา ลำปาง ตาก และจังหวัดกำแพงเพชร เนื่องจากยังมีแรงจูงใจในการปลูก ซึ่งฝิ่นดิบยังราคาดี จ้อยละ 180.000 บาท หรือ 1 จ้อยเท่ากับ 1.6 กิโลกรัม
แม่ทัพน้อยที่ 3 เปิดเผยต่อว่า ในปีที่ผ่านมามีการลักลอบปลูกมากกว่า 1 ,900 ไร่ แต่ปีนี้สถานการณ์การปลูกลดลงประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากมีการเข้าควบคุมพื้นที่ปลูกเดิม และทำความเข้าใจกับชาวบ้าน รวมทั้งสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย มีฝนตกชุก พื้นที่ที่มีการปลูกยังอยู่ที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีการลักลอบปลูกมากที่สุดของประเทศ เนื่องจากพื้นที่เป็นหุบเขา และหน้าผาสูง ทำให้ยากต่อการเข้าตัดทำลาย ต้องใช้อากาศยานบินเข้าพื้นที่
การประชุมครั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ระมัดระวังในการเข้าพื้นที่ โดยคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยในการเข้าตัดทำลายไร่ฝิ่น และต้องเข้าไปพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ทำความเข้าใจถึงผลเสียการปลูกฝิ่น ซึ่งฝิ่นนั้นถือเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง สามารถนำไปผลิตเป็นสารเสพติดต่อไปได้ แล้วมีผลเสียต่อประชาชนในวงกว้าง
นอกจากนั้นจะใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าไปในพื้นที่ ทำการสืบสวนหาผู้กระทำผิดที่ลักลอบปลูกฝิ่น โดยใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าควบคุมและฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีต่อไป