เชียงราย - อากาศยิ่งหนาว ท่องเที่ยวเชียงรายยิ่งคึกคัก “วัดร่องขุ่น” คนตรึม ด้าน “อาจารย์เฉลิมชัย” ศิลปินแห่งชาติผู้รังสรรค์ผลงาน เผยได้แรงบันดาลใจจากพระกระแสรับสั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึงสร้างวัดยิ่งใหญ่ระดับโลก ทำให้คนทั่วโลกมาชมศิลปะสมัยรัชกาลที่ 9 ได้
วันนี้ (25 พ.ย.) สถานีอุตุนิยมวิทยา จ.เชียงราย รายงานการตรวจวัดอุณหภูมิต่ำสุดในช่วงเช้าในเขต อ.เมือง ว่าอยู่ที่ 15.8 องศาเซลเซียส ทำให้สภาพอากาศหนาวเย็นและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ แต่คาดว่าหลังจากนี้สภาพอากาศในช่วงเช้าจะอบอุ่นขึ้น อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 17-19 องศาเซลเซียส และจะลดลงอีกครั้งช่วงวันจันทร์ที่ 31 พ.ย. อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศที่หนาวเย็นดังกล่าวทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวคึกคัก เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวรับลมหนาวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่วัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย ที่นักท่องเที่ยวจะแวะเข้าชมทุกครั้งเมื่อเดินทางไปเที่ยวเชียงราย
อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ผู้รังสรรค์วัดร่องขุ่น กล่าวว่า วัดร่องขุ่นมีที่มาจากการที่ตนได้มีโอกาสถวายงานพระบาทสมเด็จพระอยู่หัว วาดภาพเกี่ยวกับพระมหาชนก โดยพระองค์มีรับสั่งงานว่าจะต้องเป็นรูปวาดที่ไม่ลอกเลียนแบบรูปเขียนโบราณ หรือยุคสมัยใดๆ และไม่ลอกภาพมาจากจิตรกรรมฝาผนัง แต่ต้องสร้างงานจิตรกรรมที่เป็นแบบฉบับของสมัยปัจจุบัน หรือในรัชกาลที่ 9 และต้องเป็นศิลปะสมัยใหม่ ซึ่งถือเป็นโจทย์ที่ทำให้พวกตนที่ได้มีโอกาสถวายงานนำมาดำเนินการ
โดยตนได้วาดภาพที่กำหนดเอาไว้ 3 รูป แต่แท้ที่จริงได้วาดใบที่ 4 ด้วย เพราะนอกเหนือจากตอนเรือแตก บรรยากาศก่อนเรือแตก ซึ่งไม่เคยมีใครเคยวาดมาก่อนแล้ว พระองค์ยังมีรับสั่งให้ตนเขียนเพิ่มอีก 1 รูป คือ เขียนตามที่พระองค์รับสั่งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแสง สี ฯลฯ ซึ่งก็คือที่มาของรูปที่เขียนเพิ่มเติมดังกล่าวและถือเป็นสิ่งที่ตนภูมิใจอย่างมากที่ได้มีโอกาสถวายงานตามพระราชกระแสรับสั่งโดยทันที
อาจารย์เฉลิมชัยกล่าวอีกว่า และกระแสรับสั่งที่ว่า “งานศิลปะจะต้องเป็นสมัยใหม่” จึงเป็นที่มาของการสร้างวัดร่องขุ่นของตน โดยตนได้ทุ่มเทสร้างถวายพระองค์มาทั้งชีวิต เพราะหลังจากที่ตนเขียนภาพพระมหาชนกแล้วเสร็จในปี 2538-2539 แล้ว ปี 2540 ตนก็มาที่วัดร่องขุ่น และได้สร้างศิลปะตามที่พระองค์รับสั่ง คือ ให้เป็นงานศิลปะในสมัยรัชกาลที่ 9 โดยตนสร้างทั้งงานสถาปัตยกรรม จิตรกรรม ปฏิมากรรม ให้เป็นรูปร่างและรูปทรงดังกล่าว
“ผมจึงทุ่มเทชีวิตเพื่อรังสรรค์ให้เป็นสิ่งที่งดงามที่สุดในระดับโลก และเป็นงานศิลปะที่ไม่เคยมีที่ใดมาก่อนในประเทศไทย เป็นการพัฒนาศิลปะไทยโบราณ มาสู่การเป็นศิลปะร่วมสมัย ผมจะถวายชีวิตจนวันตายเพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน ชาติ ศาสนา และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้เป็นสมบัติของชาติ แม้ในวันนี้ผมยังอยู่ วัดก็ยิ่งใหญ่ระดับโลก คนทั่วโลกเดินทางมาชมงานศิลปะรัชกาลที่ 9 ซึ่งถือเป็นแรงบันดาลใจมาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ผมรักและเคารพยิ่ง พระองค์มีพระราชอัจฉริยภาพทางศิลปะอย่างแท้จริง” อาจารย์เฉลิมชัยกล่าว