นักท่องเที่ยวกลับ “วัดร่องขุ่น” แล้ว-ชี้อาฟเตอร์ช็อกทำบ้านพังทั้งหลังเพิ่ม (ชมคลิป)

เชียงราย - นักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้าเยี่ยมชม “วัดร่องขุ่น” หลังอาจารย์เฉลิมชัยตัดสินใจเดินหน้าซ่อม พร้อมเปิดวัดอีกรอบ ขณะที่อาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นไม่หยุดส่งผลกระทบบ้านเรือนชาวบ้านเสียหายทั้งหลังเพิ่มเป็นเกือบครึ่งร้อยแล้ว

วันนี้ (9 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดเชียงราย เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากอีกครั้ง หลังได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 6.3 ริกเตอร์เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา จนอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้รังสรรค์งานก่อสร้างวัดมานาน 18 ปี ต้องประกาศปิดวัด รอให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบโครงสร้างก่อน

เนื่องจากอาจารย์เฉลิมชัยได้ตัดสินใจเปิดวัดร่องขุ่นอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 57 ที่ผ่านมา แต่อนุญาตให้เข้าไปเฉพาะภายในบริเวณวัด และในบางอาคารก่อน หลังผู้เชี่ยวชาญได้ยืนยันว่าเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นไม่กระทบโครงสร้างของวัดแต่อย่างใด

อาจารย์เฉลิมชัยกล่าวว่า ได้เริ่มเปิดวัดร่องขุ่นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวกลับเข้าไปชมภายในบริเวณวัดอีกครั้ง โดยที่หอศิลป์เปิดให้เข้าไปภายในได้แล้ว แต่ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปภายในโบสถ์ และสิ่งปลูกสร้างทางศิลปะอื่นๆ ที่กำลังมีการซ่อมแซมอยู่ คาดว่าอีกราว 2 วันข้างหน้าจะสามารถเข้าไปภายในห้องจัดแสดงภาพ และใช้ห้องน้ำได้ ดังนั้นจึงขอแจ้งว่าอีก 2 วันก็จะเปิดให้เข้าชมได้ จึงสบายใจได้

ด้าน จ.เชียงรายได้มีการสรุปผลกระทบที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหว และอาฟเตอร์ช็อกที่ยังปรากฏต่อเนื่องว่าสร้างความเสียหายในพื้นที่ 7 อำเภอ ประกอบด้วย อ.พาน อ.แม่ลาว อ.แม่สรวย อ.เมือง อ.เวียงชัย อ.ป่าแดด และ อ.พญาเม็งราย จำนวน 45 ตำบล 519 หมู่บ้าน 18,488 บ้านเสียหายทั้งหลังเพิ่มเป็น 46 หลัง เสียหายบางส่วน 6,142 หลัง วัด 63 แห่ง โรงเรียน 46 แห่ง สถานที่ราชการ 31 แห่ง โรงแรม 1 แห่ง สะพาน 4 แห่ง ถนน 5 สาย อาคารชุมชน 1 แห่ง และท่อส่งน้ำประปาหมู่บ้าน 1 แห่ง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 23 ราย

โดยตัวเลขความเสียหายดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เนื่องจากช่วงแรกแต่ละหน่วยงานที่ประสบเหตุรายงานไปยังต้นสังกัดเป็นหลัก เช่น โรงเรียน ฯลฯ ต่อมาได้มีการบูรณาการข้อมูล จึงได้มีการแจ้งข้อมูล และสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม

ในส่วนของบ้านเรือนพบว่าหลังเกิดอาฟเตอร์ช็อกอย่างต่อเนื่องจนถึง 8 พ.ค.ที่ผ่านมากว่า 331 ครั้งในช่วงแค่ 4 วัน ทำให้บ้านเรือนที่เคยเสียหายทั้งหลังในช่วงแรกจำนวน 12 หลัง เพิ่มเป็น 46 หลังแล้ว