เชียงราย - ทีบีซีไทย-พม่าเปิดโต๊ะหารือร่วมครั้งที่ 81 พม่าโชว์ผลปราบปรามยาเสพติดได้เพียบ พร้อมขอไทยตามจับ 3 พ่อค้ายาตัวเอ้ขนเฮโรอีน 665 แท่งหนีข้ามฝั่งเข้าแม่สาย ระบุมีคนพม่าถูกฆาตกรรม-ทำร้ายถี่ยิบ แต่คนร้ายยังลอยนวลในเขตไทย
วันนี้ (25 พ.ย.) คณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่าระดับท้องถิ่น หรือทีบีซี จัดการประชุมร่วมครั้งที่ 81 ขึ้นที่ห้องประชุมโรงแรมสานมุนอาข่า จ.ท่าขี้เหล็ก โดยฝ่ายไทยมี พ.อ.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง เป็นประธาน และฝ่ายพม่ามี พ.ท.เต็ง ทูนอู ผบ.กองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 311 เป็นประธาน
การประชุมครั้งนี้ทีบีซีฝ่ายไทยหารือเกี่ยวกับความชัดเจนเรื่องการขอเปิดจุดผ่อนปรนกิ่วผาวอก อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และช่วงที่ยังไม่ได้มีการเปิด จะอนุญาตนำสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค-วัสดุก่อสร้างเข้าไปยังเมืองต่วน จ.เมืองสาด ได้หรือไม่
นอกจากนี้ยังหารือเรื่องการซ่อมสะพานข้ามลำน้ำสาย ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย ซึ่งชำรุดจากเหตุแผ่นดินไหว และน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายไทยอยู่ระหว่างขออนุมัติงบประมาณ รวมถึงเรื่องการขอติดตั้งเครื่องมือเตือนภัยในฝั่งพม่า ซึ่งฝ่ายไทยจะติดตั้งให้ การขุดลอกน้ำสายตั้งแต่บ้านสายลมจอยถึงบ้านสบสาย ระยะทาง 15 กิโลเมตร และปากคลองเหมืองแดง เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม
พร้อมกันนั้น ทีบีซีฝ่ายไทยยังขอความร่วมมือในการรณรงค์ป้องกันไฟป่าและหมอกควัน เพราะเดือนธันวาคมถึงเมษายนทุกปีจะมีปัญหาหมอกควันเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนเป็นประจำ ซึ่งปีนี้ทางฝ่ายไทยจัดกิจกรรมโครงการพัฒนาแนวกันไฟสองแผ่นดิน เทิดไท้องค์ราชัน วันที่ 23 ธันวาคม จึงขอเชิญชวนพม่าร่วมกิจกรรมและประชาสัมพันธ์ในฝั่งประเทศของตนด้วย
ขณะเดียวกัน ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ฝ่ายไทยขอขยายระยะเวลาปิดด่านถาวร อ.แม่สาย เชื่อมกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 08.30-24.00 น. และวันที่ 1 ม.ค. ตั้งแต่เวลา 00.01-02.00 น. เพื่อจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 3 แผ่นดิน
ขณะเดียวกัน ฝ่ายไทยมีแผนฝึกอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ในโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน 2 รุ่น รุ่นละ 40 คน เป็นคนไทย 20 คน พม่า 20 คน เริ่มอบรมรุ่นที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน ที่บ้านผาฮี้ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย และบ้านบาลางหลวง ของพม่า และรุ่นที่ 2 วันที่ 15 ธันวาคม ที่บ้านปางห้า ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย และบ้านป่ากุ๊ก พม่า จึงขอให้จัดอาสาสมัครเข้าร่วมด้วย
ด้านความมั่นคง ทางฝ่ายไทยยืนยันความร่วมมือในการสกัดจับกลุ่มค้าอาวุธ ที่จะส่งอาวุธไปให้ชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดน โดยวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ฉก.ทพ.36 ได้ร่วมกับตำรวจ สภ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จับกุมผู้ต้องหา 2 คน ของกลางกระสุนปืนสงครามขนาด 5.56 มม. 450 นัด และยาเสพติดจำนวนหนึ่ง
ด้านทีบีซีพม่าแจ้งว่า เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พม่าได้สกัดรถสิบล้อบนถนนท่าขี้เหล็ก-เมืองสาด ได้ผู้ต้องหา 3 คน ของกลางเฮโรอีน 665 แท่ง ปืนสั้น 4 กระบอก และกระสุนจำนวนหนึ่ง ซึ่งผู้ต้องหาซัดทอดว่ามีคนหลบหนีข้ามฝั่งเข้าไทยอีก 3 คน ประกอบด้วย นายลี่ อายุ 50 ปี ชาวจีนว้า ผู้จัดการบริษัท GLG เดิมอยู่บ้านสันทรายลื้อ จ.ท่าขี้เหล็ก นายเล่าซาน อายุ 45 ปี ชาวจีนว้า รับผิดชอบด้านการเกษตรบริษัท GLG อยู่หมู่บ้านเดียวกัน และนายอาฉ่า หรืออาผ่า อายุ 39 ปี ชาวเมืองตูม จ.เมืองสาด จึงขอให้ฝ่ายไทยช่วยติดตามจับกุม
คณะกรรมการทีบีซีพม่ายังกล่าวในที่ประชุมอีกว่า ตั้งแต่การประชุมทีบีซีครั้งที่ 80 ทางการพม่าสามารถยึดของกลางเฮโรอีนได้ 770.0025 กิโลกรัม ยาบ้า 2,780,059 เม็ด ยาไอซ์ 5.5055 กิโลกรัม น้้ำยาเคมี 7,853.92 ลิตร ซูโอแอดติน 28,850 เม็ด น้ำยาดับกลิ่น 60 ลิตร อาโนมียัมโกรทไลท์ 492 กิโลกรัม ผงถ่าน 60 กิโลกรัม ผงคาร์บอน 8 กิโลกรัม ผงเพาะสปริด 50 กิโลกรัม ผงกาว 39 กิโลกรัม และอุปกรณ์จำนวนหนึ่ง ผู้ต้องหาชาย 59 คน และหญิง 16 คน รวม 75 คน
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นกับลำน้ำสายนั้น ทางทีบีซีพม่าแจ้งว่า รัฐมนตรีเทศบาลรัฐฉานแจ้งว่าควรขยายลำน้ำให้เท่าเดิม โดยรื้อสิ่งกีดขวางทุกอย่าง รณรงค์งดการทิ้งสิ่งปฏิกูล และรื้อถอนท่ากำนันแดง บ้านสันทราย อ.ท่าขี้เหล็ก ซึ่งสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1898 เพื่อขนหินเข้าไทย และที่ท่าหัวฝาย บ้านปงถุน ก็มีการเรียงก้อนหิน จึงขอให้รื้อถอนออกไปด้วย
เพราะน้ำท่วมที่ผ่านมาทำให้เกิดความเสียหายหลายจุด เช่น บ้านป่าแดง บ้านยันอ่องเหม่ บ้านป่ากุ๊ก ตอนบนของโรงแรมพาราไดซ์ และท่ากำนันแดง ริมฝั่งพังทลายกว่า 150 เมตร พื้นที่ตอนบนท่าน้ำป่ากุ๊กพังทลายมากถึง 300 เมตร ส่วนตอนล่างพังทลาย 400 เมตร ทางตอนใต้บ้านน้ำรุกพังทลายมากถึง 450 เมตร
ส่วนกรณีไทยขอติดตั้งเครื่องมือเตือนภัยต้นน้ำสาย ห่างจากตัวเมืองแม่สายและท่าขี้เหล็กประมาณ 5 ไมล์นั้น ทางฝ่ายพม่ารับทราบ และขอให้ส่งเอกสารอย่างเป็นทางการต่อไป
ทีบีซีพม่ายังได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนว่า เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา นายแก้ว ชาว จ.เชียงตุง ที่เข้ามาทำงานใน อ.แม่สาย ถูกชายไม่ทราบชื่อใช้มีดปลายแหลมแทงจนเสียชีวิต และภรรยาถูกตีศีรษะบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บ้านป่ายางผาแดง ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ปัจจุบันภรรยารักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ยังไม่สามารถพูดได้ ทั้งคู่มีบุตรชาย 1 คน และหญิง 1 คน ไม่มีคนดูแล เพราะเป็นแค่คนค้าขายเมล็ดทานตะวัน ที่ตลาดดอยเวา อ.แม่สาย
และเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม นางหันนุ ชาวบ้านมะก๋าหัวคำ จ.ท่าขี้เหล็ก ถูกคนบุกบ้านทุบศีรษะจนเสียชีวิตคาบ้าน เจ้าหน้าที่พม่าทราบว่าคนร้ายชื่อนายไอ่เหลาแปง ชาวไทยใหญ่ อายุ 32 ปี ไปอาศัยที่บ้านสันทราย จ.เชียงใหม่ อีกคดีเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กันยายน นายจ่อโซ ถูกชาย 3 คนอุ้ม แต่หลบหนีได้ จึงไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางพม่าทราบว่าคนร้ายชื่อนายตองจ่อ เป็นชาวท่าขี้เหล็ก นายตามไท้ชาว อ.แม่สาย และนายเกตี่่อ่อง ชาวพม่าที่อาศัยอยู่ อ.แม่สาย จึงขอให้ฝ่ายไทยช่วยคลี่คลายคดีด้วย
ทีบีซีพม่ายังอ้างถึงการประชุมครั้งที่ 72 ซึ่งฝ่ายพม่าขอใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราวหรือบอเดอร์พาส เดินทางจากชายแดน อ.แม่สาย เข้าไทยไปถึง อ.เมือง จ.เชียงราย และจ.เชียงใหม่ ได้เป็นเวลา 14 วัน 13 คืน จากเดิมเข้าได้แค่ 5 กิโลเมตรจากชายแดน นอกจากนี้ยังสอบถามความคืบหน้าเรื่องการขยายระยะเวลาเปิด-ปิดด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็กเพิ่มเติม พร้อมกับขอทราบมาตรการตรวจสารพิษผลไม้ที่เข้าจากพม่า
นอกจากนี้ยังได้ขอหารือถึงข้อกำหนดเรื่องการนำเงินสู่ประเทศไทยเกิน 300,000 บาท ที่ต้องแจ้งด่านศุลกากรแม่สาย ซึ่งทางการพม่าอยากให้หารือการอำนวยความสะดวกกันมากขึ้นด้วย