กาญจนบุรี - ผบก.กาญจนบุรี สั่งตำรวจจับตาแก๊งล้วงกระเป๋า และโจรกรรมรถยนต์ รวมทั้งรถ จยย.ที่แฝงตัวเข้ามาอาละวาดภายในงาน “สัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว” ที่กำลังจะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-7 ธ.ค.นี้
เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (24 พ.ย.) พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 5 วันเท่านั้นก็จะถึงวันงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว และงานกาชาด ประจำปี 2557 ขึ้น ที่จังหวัดกาญจนบุรี จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 พ.ย.ถึงวันที่ 7 ธ.ค.รวมทั้งหมด 10 วัน คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติเดินทางมาเที่ยวชมงานเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น ทาง พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่อยู่ในพื้นที่ให้ปฏิบัติหน้่าที่ตรวจตราอย่างเข้มงวด พร้อมกับประสานกำลังกันเดินลาดตระเวนภายในงานเพื่อป้องกันเหตุต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะพวกแก๊งมิจฉาชีพต่างๆ ที่จะฉวยโอกาสมาหากินภายในงานนี้ด้วยการเดินทางปะปนเข้ามากับประชาชน และนักท่องเที่ยวเพื่อหวังชิงทรัพย์ของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะแก๊งกรีตกระเป๋า หรือแก๊งล้วงกระเป๋า ซึ่งแก๊งเหล่านี้มีทั้งคนไทย และต่างชาติ
“หากได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุจะต้องไปถึงผู้เสียหายให้เร็วที่สุด เพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว” พ.ต.อ.พงษกร กล่าวและว่า
สำหรับมาตรการการป้องกัน หากเจ้าหน้าที่พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย หรือท่าทางมีพิรุธว่าอาจจะเป็นแก๊งกรีตกระเป๋า หรือแก๊งล้วงกระเป๋าก็จะต้องตรวจสอบทันที จากนั้นให้รีบรายงานให้กองอำนวยการที่ตั้งอยู่ภายในงานทราบโดยด่วน
นอกจากป้องกันแก๊งกรีตกระเป๋า หรือแก๊งล้วงกระเป๋าแล้ว เจ้าหน้าที่จะต้องป้องกันขบวนการโจรกรรมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ซึ่งจะต้องปฏิบัติงานอย่างเข้มข้นเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ลำพังกำลังเจ้าหน้าที่อาจจะดูแลไม่ทั่วถึง
ดังนั้น จึงขอให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่นำรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์เข้ามาจอดภายในงานขอให้เลือกนำเข้าไปจอดยังสถานที่ที่มีคนคอยดูแล โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ของเอกชนที่ให้บริการด้านการจอดรถ เชื่อว่าจะปลอดภัยที่สุด
“ถ้าหากไม่มีที่จอดแล้วนำไปจอดตามสถานที่โดยรอบที่ค่อนข้างมืด และล่อแหลม ก็ขอให้เจ้าของล็อกรถเอาไว้ให้มั่นใจได้ว่ารถของท่านจะไม่ถูกโจรกรรม ขออย่าเดินเที่ยวจนเพลินจะต้องเดินกลับมาดูรถของท่านที่จอดเอาไว้ด้วย และหากพบรถหายจะต้องรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบโดยทันที เพื่อง่ายต่อการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี”
“สำหรับการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานจะร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่าประชาชน และนักท่องเที่ยวกลับบ้านจนหมด” พ.ต.อ.พงษกร กล่าว
เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (24 พ.ย.) พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 5 วันเท่านั้นก็จะถึงวันงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว และงานกาชาด ประจำปี 2557 ขึ้น ที่จังหวัดกาญจนบุรี จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 พ.ย.ถึงวันที่ 7 ธ.ค.รวมทั้งหมด 10 วัน คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติเดินทางมาเที่ยวชมงานเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น ทาง พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่อยู่ในพื้นที่ให้ปฏิบัติหน้่าที่ตรวจตราอย่างเข้มงวด พร้อมกับประสานกำลังกันเดินลาดตระเวนภายในงานเพื่อป้องกันเหตุต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะพวกแก๊งมิจฉาชีพต่างๆ ที่จะฉวยโอกาสมาหากินภายในงานนี้ด้วยการเดินทางปะปนเข้ามากับประชาชน และนักท่องเที่ยวเพื่อหวังชิงทรัพย์ของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะแก๊งกรีตกระเป๋า หรือแก๊งล้วงกระเป๋า ซึ่งแก๊งเหล่านี้มีทั้งคนไทย และต่างชาติ
“หากได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุจะต้องไปถึงผู้เสียหายให้เร็วที่สุด เพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว” พ.ต.อ.พงษกร กล่าวและว่า
สำหรับมาตรการการป้องกัน หากเจ้าหน้าที่พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย หรือท่าทางมีพิรุธว่าอาจจะเป็นแก๊งกรีตกระเป๋า หรือแก๊งล้วงกระเป๋าก็จะต้องตรวจสอบทันที จากนั้นให้รีบรายงานให้กองอำนวยการที่ตั้งอยู่ภายในงานทราบโดยด่วน
นอกจากป้องกันแก๊งกรีตกระเป๋า หรือแก๊งล้วงกระเป๋าแล้ว เจ้าหน้าที่จะต้องป้องกันขบวนการโจรกรรมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ซึ่งจะต้องปฏิบัติงานอย่างเข้มข้นเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ลำพังกำลังเจ้าหน้าที่อาจจะดูแลไม่ทั่วถึง
ดังนั้น จึงขอให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่นำรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์เข้ามาจอดภายในงานขอให้เลือกนำเข้าไปจอดยังสถานที่ที่มีคนคอยดูแล โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ของเอกชนที่ให้บริการด้านการจอดรถ เชื่อว่าจะปลอดภัยที่สุด
“ถ้าหากไม่มีที่จอดแล้วนำไปจอดตามสถานที่โดยรอบที่ค่อนข้างมืด และล่อแหลม ก็ขอให้เจ้าของล็อกรถเอาไว้ให้มั่นใจได้ว่ารถของท่านจะไม่ถูกโจรกรรม ขออย่าเดินเที่ยวจนเพลินจะต้องเดินกลับมาดูรถของท่านที่จอดเอาไว้ด้วย และหากพบรถหายจะต้องรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบโดยทันที เพื่อง่ายต่อการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี”
“สำหรับการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานจะร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่าประชาชน และนักท่องเที่ยวกลับบ้านจนหมด” พ.ต.อ.พงษกร กล่าว