กาญจนบุรี - ผบก.เมืองกาญจน์ เตือน ร้านจำหน่ายพลุ ดอกไม้ไฟ ประทัดยักษ์ ก่อนและหลังลอยกระทงไม่มีใบอนุญาตสั่งจับกุมทันที พร้อมเตือนพวกฉวยโอกาสวางขายตามแหล่งท่องเที่ยวโดนด้วย
วันนี้ (13 ต.ค.) พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี กล่าวว่า วันที่ 17 พฤศจิกายนเป็นวันลอยกระทง คาดว่าจะมีประชาชน และนักท่องเที่ยวเดินทางมากาญจนบุรีจำนวนมาก เพื่อร่วมงานเล่นดอกไม้ไฟ พลุ และประทัดยักษ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก เยาวชน หรือกลุ่มวัยรุ่น ทำให้เป็นห่วงว่าอาจจะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ เช่น เหตุเพลิงไหม้ หรือได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เพราะช่วงเดียวกันของทุกปีจะมีข่าวให้เห็นอยู่เป็นประจำ และมักจะเกิดขึ้นกับวัยรุ่นที่อวดเก่ง
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น จึงสั่งการให้ตำรวจทุกท้องที่ตรวจสอบแหล่งที่มาของวัตถุเหล่านี้อย่างเข้มงวด หากพบว่าใครนำมาจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตจะถูกยึด และนำตัวผู้จำหน่ายไปดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งผู้ที่ลักลอบจำหน่ายก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน โดยแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม เช่น ถนนริมน้ำหน้าเมืองกาญจนบุรี ท่าน้ำ ต.หนองบัว ทะเลน้ำจืด ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง ริมน้ำติดกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว ต.ท่ามะขาม รวมทั้งแพอาหารริมฝั่งแม่น้ำ
สำหรับสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุด คือ แพล่องริมน้ำหน้าเมือง ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างจังหวัด หรือกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัย พร้อมขอความร่วมมือสมาคมชาวแพ-ชาวเรือจังหวัดกาญจนบุรี ให้ดูแลนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นกรณีพิเศษ
“แม้ที่ผ่านมาจะไม่มีรายงานการบาดเจ็บจากการเล่นพลุก็ตาม แต่เพื่อความไม่ประมาทได้กำชับให้ตรวจตราร้านค้าเหล่านี้อย่างเคร่งครัด และดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย จึงฝากเตือนไปยังร้านค้าว่า หากไม่มีใบอนุญาตก็อย่าฝืนทำผิดกฎหมายเด็ดขาด รวมทั้งผู้ที่ฉวยโอกาสจำหน่ายด้วย เพราะหากนักท่องเที่ยวที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้รับอันตรายจากการเล่นด้วยความประมาทจะสร้างความเสื่อมเสียให้แก่จังหวัด”
พล.ต.ต.กมลสันติ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ตำรวจสายตรวจทุกท้องที่ออกประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ รวมทั้งแนะนำนักท่องเที่ยวที่ซื้อดอกไม้ไฟ พลุ หรือประทัด ให้เล่นในสถานที่ที่ปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น รวมถึงตัวผู้เล่นเองด้วย
วันนี้ (13 ต.ค.) พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี กล่าวว่า วันที่ 17 พฤศจิกายนเป็นวันลอยกระทง คาดว่าจะมีประชาชน และนักท่องเที่ยวเดินทางมากาญจนบุรีจำนวนมาก เพื่อร่วมงานเล่นดอกไม้ไฟ พลุ และประทัดยักษ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก เยาวชน หรือกลุ่มวัยรุ่น ทำให้เป็นห่วงว่าอาจจะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ เช่น เหตุเพลิงไหม้ หรือได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เพราะช่วงเดียวกันของทุกปีจะมีข่าวให้เห็นอยู่เป็นประจำ และมักจะเกิดขึ้นกับวัยรุ่นที่อวดเก่ง
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น จึงสั่งการให้ตำรวจทุกท้องที่ตรวจสอบแหล่งที่มาของวัตถุเหล่านี้อย่างเข้มงวด หากพบว่าใครนำมาจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตจะถูกยึด และนำตัวผู้จำหน่ายไปดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งผู้ที่ลักลอบจำหน่ายก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน โดยแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม เช่น ถนนริมน้ำหน้าเมืองกาญจนบุรี ท่าน้ำ ต.หนองบัว ทะเลน้ำจืด ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง ริมน้ำติดกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว ต.ท่ามะขาม รวมทั้งแพอาหารริมฝั่งแม่น้ำ
สำหรับสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุด คือ แพล่องริมน้ำหน้าเมือง ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างจังหวัด หรือกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัย พร้อมขอความร่วมมือสมาคมชาวแพ-ชาวเรือจังหวัดกาญจนบุรี ให้ดูแลนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นกรณีพิเศษ
“แม้ที่ผ่านมาจะไม่มีรายงานการบาดเจ็บจากการเล่นพลุก็ตาม แต่เพื่อความไม่ประมาทได้กำชับให้ตรวจตราร้านค้าเหล่านี้อย่างเคร่งครัด และดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย จึงฝากเตือนไปยังร้านค้าว่า หากไม่มีใบอนุญาตก็อย่าฝืนทำผิดกฎหมายเด็ดขาด รวมทั้งผู้ที่ฉวยโอกาสจำหน่ายด้วย เพราะหากนักท่องเที่ยวที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้รับอันตรายจากการเล่นด้วยความประมาทจะสร้างความเสื่อมเสียให้แก่จังหวัด”
พล.ต.ต.กมลสันติ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ตำรวจสายตรวจทุกท้องที่ออกประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ รวมทั้งแนะนำนักท่องเที่ยวที่ซื้อดอกไม้ไฟ พลุ หรือประทัด ให้เล่นในสถานที่ที่ปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น รวมถึงตัวผู้เล่นเองด้วย