พิจิตร - แขวงการทางพิจิตร ระดมคนงานจากหมวดการทางทับคล้อ-ตะพานหิน ร่วมซ่อมผิวถนนสุดห่วยสายสากเหล็ก-วังทรายพูน หลังถูกคนผ่านทางประจานผ่านโลกออนไลน์หนัก คาดสิ้นปีเสร็จ แต่อาจดีแค่ชั่วคราว จะให้ดีต้องรื้อ-ราดยางใหม่ทั้งเส้น เผย 40 กม.ผิวถนนพัง 4 หมื่น ตร.ม. จนซ่อมไม่ทัน
วันนี้ (16 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีชาวบ้านตลอดจนผู้ใช้รถใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 11 เส้นทางตากฟ้า-เขาทราย-วังทอง เพื่อขึ้น-ล่องสู่ภาคเหนือ พากันร้องเรียน และโพสต์ภาพ-ข้อมูลประจานผ่านโลกออนไลน์ รวมทั้งเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนว่า ถนนสายนี้ โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านเขตจังหวัดพิจิตร พังเสียหายเป็นหลุมเป็นบ่อ เป็นระยะทางกว่า 40 กม. จนทำให้เกิดอุบัติเหตุเจ็บตายมาแล้วหลายครั้ง
ล่าสุดนายเรวัต บุปผะศิริ ผอ.แขวงการทางจังหวัดพิจิตร เปิดเผยถึงความรับผิดชอบบนเส้นทางหลวงหมายเลข 11 ว่า ถนนสายนี้พาดผ่านจังหวัดพิจิตรประมาณ 60 กม.เศษ แต่มีถนนที่อยู่ในช่วง อ.วังทรายพูน-อ.สากเหล็ก ระยะทางประมาณ 40 กม. ชำรุดทรุดโทรมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสร้างมานานกว่า 20 ปีแล้ว
อีกทั้งจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่ม สองข้างทางมีคูน้ำ และคลองพาดผ่านเป็นจำนวนมาก เมื่อถึงหน้าฝนน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ก็จะไหลมาปะทะกับถนนก่อนไหลลงสู่แม่น้ำน่าน ทำให้ถนนถูกน้ำท่วมหลายครั้งหลายคราวจนดินที่เป็นแนวถนนทรุดตัว เมื่อถูกรถบรรทุก และรถทั่วไปวิ่งผ่านไปมาวันละกว่า 7,000 คันจึงทำให้ถนนทรุดตัว และเมื่อเจอน้ำฝนที่ไหลลงไปในร่องถนนที่แตกร้าวก็ยิ่งทำให้ใต้ดินเป็นหลุมเป็นโพรงเกิดการทรุดตัวมากขึ้น นับรวมแล้วมากกว่า 400 จุด คิดเป็นพื้นที่เกือบ 40,000 ตารางเมตร
นายเรวัตบอกว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีหมวดการทางทับคล้อ ซึ่งมีคนงานฝ่ายซ่อมบำรุงแค่ 8 คนก็ได้ซ่อมแซมตลอดมา แต่งานซ่อมมีมากกว่าคนงาน เพราะการซ่อมแซมถนนต้องทำงานด้วยแรงงานคน จึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ในแต่ละวันสามารถซ่อมถนนได้ไม่เกิน 40-50 ตารางเมตร พอซ่อมหัวถนน ท้ายถนนก็พังต่อไล่หลังกันมาแบบไม่รู้จักจบจักสิ้น
นายเรวัตยอมรับว่า ถูกคนในโลกออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ รวมถึงสื่อมวลชนก็นำภาพถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อไปเผยแพร่ ถึงกับมีการตั้งสมญานามว่าถนนทางหลวงหมายเลข 11 ช่วงเขาทราย-สากเหล็ก เป็น “เส้นทางนรก” เพราะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ซึ่งแขวงการทางก็น้อมรับในคำติชม
ล่าสุดแขวงการทางจังหวัดพิจิตรจึงได้ร่วมกับหมวดการทางทับคล้อ และขอแรงเพิ่มเติมจากหมวดการทางตะพานหิน นำคนงาน 2 ชุด รวมเกือบ 20 คน ช่วยกันระดมซ่อมแซมถนนดังกล่าวในทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยจะทำเต็มกำลัง ซึ่งจะซ่อมแซมในหลุม หรือบ่อใหญ่ๆ ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้รถจักรยานยนต์หรือยานพาหนะทั่วไปประสบอุบัติเหตุ
ดังนั้น จึงของฝากบอกกับผู้ใช้เส้นทางเส้นนี้ว่าขอให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง ส่วนการปรับปรุงแก้ไขนั้นแขวงการทางจังหวัดพิจิตรจะเร่งทำให้เร็วที่สุดและดีที่สุดเท่าที่งบประมาณจะเอื้ออำนวย
นายเรวัตให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม ถ้าจะให้ถนนเส้นนี้เสร็จสมบูรณ์ต้องรื้อผิวถนนแล้วเทราดยางใหม่ตลอดทั้งเส้น แต่ต้องใช้งบประมาณหลายร้อยล้านบาท ซึ่งทำเรื่องเสนอไปยังผู้บังคับบัญชาแล้ว โดยเบื้องต้นวันนี้ได้รับอนุมัติงบประมาณมาแล้ว 130 ล้านบาท จึงจะแบ่งการก่อสร้างทำถนนเส้นนี้ให้ดีเป็น 4 ตอน ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้ผู้รับจ้างและลงมือดำเนินงานได้ภายในสิ้นปีนี้