อุตรดิตถ์ - สาวอุตรดิตถ์วัย 27 ปี โวยแจ้งตำรวจผ่าน 191 ถึง 2 ครั้ง ขณะเจอชายวัย 50 ปีเศษควักอวัยวะเพศออกมาช่วยตัวเองต่อหน้ากลางดึก กลับไม่มีตำรวจมาตรวจสอบ ต้องรอให้มีคนผ่านทางมา ทำให้ชายวิปริตหนีไปได้ แถมรุ่งขึ้นยังไปก่อเหตุซ้ำอีก
วันนี้ (13 พ.ย.) น.ส.กมลพร วัฒนเวส อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161/45 หมู่ 5 ต.ท่าเสา อ.เมืองอุตรดิตถ์ พนักงานจ้างทั่วไปเทศบาลตำบล (ทต.) ท่าเสา กล่าวว่า ช่วงเวลา 22.00 น. วันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะเดินออกจากร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น สาขาหน้าวิทยาลัยสารพัดช่างอุตรดิตถ์ ถนนอินใจมี เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ได้สวนทางกับผู้ชายคนหนึ่ง อายุราว 50 ปีเศษ สวมเสื้อสีเหลืองคอปกแขนสั้น สวมกางเกงขาสั้นสีดำ และสวมหมวกแก๊ปสีดำ จังหวะนั้นชายคนดังกล่าวได้หันมามองหน้า
ตอนแรกตนคิดว่ามองสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทที่ใส่อยู่ เพราะการแต่งกายคืนนั้นรัดกุมสวมเสื้อกระโปรงยาวมาก แต่พอเหลือบตาไปเห็นอีกครั้งชายดังกล่าวก็เดินตามมา จึงเดินเร็วขึ้นเพื่อเข้ารถยนต์พร้อมล็อกประตูทันที
น.ส.กมลพรกล่าวว่า เมื่อเข้ารถยนต์เรียบร้อย แทนที่ชายดังกล่าวจะเดินหนีออกไป แต่กลับเดินตรงเข้ามาบริเวณหน้ารถยนต์ด้านคนนั่งซ้ายมือ พร้อมกับควักอวัยวะเพศออกมาทำการช่วยเหลือตัวเอง จึงหยิบโทรศัพท์เพื่อโทร.แจ้งขอความช่วยเหลือไปที่ 191 มีเสียงผู้หญิงตอบกลับว่า กำลังให้บริการสายอื่นอยู่ กรุณารอสักครู่ หรือวางสายแล้วโทร.มาอีกครั้ง แต่ก็รอสายจนมีเสียงผู้หญิงรับสาย และเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง พร้อมกับจะแจ้งตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เข้ามาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ขณะที่ชายดังกล่าวก็ยังยืนช่วยเหลือตัวเองอยู่
แต่ปรากฏว่าตนรออยู่นานสัก 15-20 นาทีก็ไม่มีสายตรวจมายังที่เกิดเหตุ กระทั่งมีผู้ชายราว 3-4 คนผ่านมาทำให้ชายคนดังกล่าวรีบวิ่งหนีเข้าไปในซอย
“เมื่อไม่มีสายตรวจมาก็โทรศัพท์ไปยัง 191 อีกครั้ง เสียงผู้หญิงก็ตอบกลับมาว่า แจ้งให้สายตรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์แล้วให้รอสักครู่ อาจกำลังเดินทาง ก็ตัดสินใจรออีกครั้ง กระทั่งเวลา 22.25 น. ก็มีโทรศัพท์จากสายตรวจโทร.เข้ามาบอกว่า ไม่ต้องรอเพราะไม่เข้าไป
พร้อมกับสอบถามว่า ชายคนนั้นทำความเดือดร้อนอะไรให้หรือเปล่า เขาไม่ได้ลวนลามไม่ใช่เหรอ จึงย้อนถามไปว่าขนาดนี้แล้วยังบอกไม่เดือดร้อนอีกเหรอ หรือจะรอให้เขามาลวนลามก่อนใช่หรือไม่ถึงจะมาดู ตำรวจสายตรวจก็บอกว่า จะเอาเรื่องก็ให้ไปที่ สภ.เพื่อพบพนักงานสอบสวน จึงไปพบพนักงานสอบสวนและเล่าเหตุการณ์ให้ฟังทั้งหมด” น.ส.กมลพรกล่าว
น.ส.กมลพรกล่าวอีกว่า แม้ตนจะไม่ได้รับอันตรายก็ตาม แต่หากตำรวจสายตรวจมาที่เกิดเหตุเร็วกว่านี้อาจสามารถจับตัวชายคนดังกล่าวได้ จะได้ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นอีก เพราะเช้าวันถัดมาก็มีข่าวว่าชายคนเดียวกันที่ก่อเหตุกับตนไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันที่ข้างอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่านถนนสุขเกษม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถจับตัวชายดังกล่าวได้
“ตอนนี้ดิฉันรู้แล้วว่าชายที่กระทำอนาจารต่อหน้าดิฉันที่หน้าร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น คือ อดีตเจ้าของดิสโก้เธคเคลื่อนที่ชื่อดัง ต่อมาถูกจับกุมคดียาบ้า หลังจากพ้นโทษออกมาก็ได้มาจัดรายการวิทยุชุมชนอยู่”