ศูนย์ข่าวศรีราชา - อุตสาหกรรมอมตะนคร แก้ปัญหาวัดมาบสามเกลียว ติดป้ายห้ามใช้เสียงเขตวัด หลังเจ้าอาวาสไม่พอใจ ประกาศขายวัด 2,000 ล้าน เพราะรำคาญเสียงรถบรรทุกเปิดเพลงเสียงดัง ด้านเจ้าอาวาสวัด เผยหากังไม่สมารถแก้ไขได้จริง ก็ยืนยันจะประกาศขายวัดต่อไป
วันนี้ (13 พ.ย.57) จากกรณี พระครูวิบูลย์ สุภากร เจ้าอาวาสวัดมาบสามเกลียว ต.มาบสามเกลียว อ.เมือง จ.ชลบุรี ไม่พอใจอึดอัด เสียงรถบรรทุกสินค้าและโดยสารรับส่งพนักงานของโรงงานต่าง ๆ ที่ดัง และเปิดเครื่องเสียงสนั่นหั่นไหว ประกอบกับมีกลิ่นสารพิษต่างๆ ทำให้เกิดความรำคาญ จนไม่ได้หลับได้นอน ทำให้พระลูกวัดลาไปอยู่วัดอื่นบ้าง สึกบ้าง จึงประชดประชัน ด้วยการติดป้ายประกาศขายวัด 2,000 ล้านบาท นั้น
ล่าสุดวันนี้ (13 พ.ย.57) นายอภิชาต เสกธีระ วิศวกร 8 สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร สังกัดหน่วยงานการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศ พร้อมด้วย นางสาวรุ่งกาญ แพรงาม เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์อาวุโส บมจ.อมตะคอร์ปอเรชั่น เข้ามาดูแลเจรจาช่วยเหลือ โดยนำป้ายห้ามใช้เสียงดังเขตวัด มาติดโดยรอบ เพื่อเป็นการแก้ไขในเบื้องต้น
พร้อมกับแจ้งไปยังผู้ประกอบการโรงงานและบรรดารถโดยสารรับส่งพนักงานให้ช่วยกัน ไม่ให้ใช้เสียงดังกล่าว ทำให้เสียงลดน้อยลงไป พร้อมขอความร่วมมือ ตำรวจกับ รปภ.มาประจำจุดตรวจผ่านวัด หากพบรถเสียงดังให้ดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมบันทึกชื่อส่งให้ต้นสังกัดจัดการ นอกจากนี้ ในระยะยาว ปลูกต้นไผ่หวาน ทำเป็นรั้ว เพื่อช่วยดูดซับเสียง ให้เบาลง เพื่อกับตั้งสถานีตรวจมลพิษ 24 ชม.อยู่ในวัดอีกด้วย
ด้าน น.ส.อังศุมาลิน จุฑาจินดาเขต ผู้อำนวยการพุทธศาสนา พร้อมด้วย ทหารจากมณฑบทหารบกที่ 14 จ.ชลบุรี สถานีตำรวจภูธรดอนหัวฬ่อ นางสาว นวรัตน์ ไตรรักษ์ นายกเทศบาลตำบลดอนหัวฬ่อ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 จ.ชลบุรี ผู้จัดการโรงงานอีซูอิ ซึ่งเป็นโรงงานที่อยู่หน้าวัด ได้มาร่วมประชุมฟังขอร้องเรียนของ เจ้าอาวาส ขอให้แก้ปัญหา 3 เรื่องคือ เรื่องเสียง เรื่องกลิ่น เรื่องฝุ่น โดยทั้งหมดก็รับปากเจ้าอาวาสว่าจะรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน
พระครูวิบูลย์สุภากร เจ้าอาวาสวัดมาบสามเกลียว กล่าวว่า วันนี้รู้สึกพอใจ ที่มีหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมเข้ามาดูแลช่วยเหลือแก้ไขมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการติดป้าย เตือนผู้ใช้รถใช้ถนน ห้ามใช้เสียงดังเขตรอบวัด ทำให้รู้สึกดีใจ แต่ก็ยังมีเรื่องที่แก้ไขอีกที่ขอไว้ คือ เรื่องของกลิ่นสารเคมี ที่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนมาก
โดยเฉพาะฝุ่นละออง ที่ปะปนมากับอากาศ ทำให้รู้สึกคัน หลังที่ตากจีวรไว้ แล้วนำมาห่ม น่าจะมีสิ่งสกปรกหรือเกี่ยวมลพิษจากโรงงานมาในอากาศ และสุดท้ายคือเรื่องการบำบัดน้ำเสีย ที่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวน จึงอยากให้ทุกฝ่าย ดูแลแก้ไขให้ทุกอย่างกลับคืนสภาพเดิมหรือตามปกติ เหมือนสมัยก่อนที่วัดตั้งขึ้น โดยยังไม่มีโรงงานกว่า 650 โรงงานมารายล้อม ซึ่งหากไม่สามารถแก้ไขให้เป็นที่พอใจ ก็จะยังประกาศขายวัด และย้ายวัดไปอยู่ที่ใหม่ ซึ่งมีผู้ใจบุญพร้อมจะให้มีการจัดตั้งวัดอยู่แล้ว
นายอภิชาต เสกธีระ วิศวกร 8 สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ในเบื้องต้น หลังอมตะรับทราบเรื่องขึ้นป้ายประกาศขายวัด จึงมาพูคุยกับเจ้าอาวาส จากนั้นตนจึงช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน เบื้องต้นแก่เจ้าอาวาส 2 ระยะ
ระยะเร่งด่วน ดำเนินการติดป้ายห้ามใช้เสียง ทั่วเขตบริเวณทางผ่านวัด พร้อมประสานตำรวจและ รปภ.ประจำจุดตรวจ หากพบรถรับส่ง - พนักงานส่งเสียงดัง ให้ดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมทั้งบันทึกรายชื่อผู้ให้บริการ เพื่อส่งให้หน่วยสังกัดตักเตือนและลงโทษ 2
ระยะยาว คือการปลูกต้นไผ่หวาน เพื่อทำเป็นแนวรั้วบริเวณตลอดเขตหน้าวัดด้านติดถนนเพื่อช่วยดูดซับเสียง พร้อมตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศถาวรอยู่ในบริเวณวัดเป็นที่เรียบร้อน ซึ่งจะสามารถตรวจเช็กอากาศได้ตลอด 24 ชม.
ด้านตัวแทน โรงงานผลิตท่อ ของบริษัท อิซุอิก จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานที่ตั้งอยู่ตรงข้ามวัด และอดีตเคยเช่าที่วัด เพื่อจอดรถรับส่งพนักงานและรถบรรทุกสินค้า แต่ปัจจุบันเลิกเช่าแล้ว กล่าวว่า เจ้าอาวาสเคยเข้าไปที่โรงงานหลายครั้ง เข้าไปต่อว่า เรื่องเสียงที่ดัง โดยเฉพาะรถรับส่งพนักงานและรถบรรทุกสินค้าที่ติดเครื่องเสียง รวมไปถึงบรรดาพนักงานเล่นกีฬาส่งเสียงดัง
วันนี้ ตนได้รับทราบปัญหา ก็พยายามหาทางแก้ไขมาโดยตลอด แต่ว่า ก็ยังไม่ดี ไม่เป็นที่พอใจ ก็จะนำเรื่องนี้ ส่งให้เจ้านาย เพื่อพิจารณาหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป และจะต้องเลิกส่งเสียงดัง ตามที่เจ้าอาวาสต้องการ
นายชูชาติ สายถิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมตะวอเตอร์จำกัด ดูแลการบำบัดและจำกัดน้ำเสีย กล่าวว่า ทางนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ตั้งมาตรการในการดูแลบำบัดและกำจัดน้ำเสียสูงกว่า หน่วยราชการและภาคเอกชนทั่วไป เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม บ่อบำบัดน้ำเสียของที่นี่ มีมาตรฐานสูง มีการตรวจสอบอย่างละเอียดและสม่ำเสมอ ดังนั้น หากบอกว่า ยังไม่พอใจกับการบำบัดน้ำเสียของที่นี่ ต้องก็ยินดีที่จะ เพิ่มมาตรฐานในการบลำบัดตามที่เจ้าอาวาสต้องการ เพื่อให้พอใจมากที่สุด
สำหรับ วัดมาบสามเกลียว อดีตเป็นสำนักสงฆ์ จนกระทั่งปี 2532 ได้ตั้งเป็นวัด ต่อมา นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ได้เข้ามาตั้งเมื่อปี 2538 มีโรงงานที่ติดกับวัดทั้งหมด 650 โรง วัดเหมือนเป็นไข่แดง จุดศูนย์กลางนิคมฯ มีขนาด 7 ไร่ ปัจจุบันมีพระรูปเดียว