บุรีรัมย์ - ตำรวจบุรีรัมย์ รวบหนุ่มใหญ่บุกงัดเซฟในห้องการเงินวิทยาลัยเกษตรฯ กลางดึก ก่อนกวาดเงินโครงการเรียนฟรี 15 ปี เตรียมไว้จ่าย นศ.ไปกว่า 1 แสน สารภาพนำเงินไปจ่ายค่ายาบ้า และเล่นการพนัน พบประวัติโชกโชนเคยติดคุกมาหลายคดี และตระเวนก่อเหตุมาหลายแห่ง โดยมีเพื่อนร่วมแก๊งก่อเหตุเป็นชาวเวียดนาม ตร.เค้นสอบขยายผลรวบเพิ่ม
วันนี้ (12 พ.ย.) พล.ต.ต.สุวรรณ์ เอกโพธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ และพนักงานสอบสวน ได้นำตัว นายอุเทน ศีสารคาม อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 ม.2 ต.หัวขวาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ผู้ต้องหาคดี “ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน” พร้อมของกลางเลื่อยตัดเหล็ก ชะแลง คีมล็อก ไขควง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีบีอาร์ สีขาวคาดแดง ที่ใช้ก่อเหตุ และทรัพย์สินที่ลักขโมยมาแถลงที่หน้ากองกำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปกบดานอยู่ที่ จ.นครปฐม
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อคืนวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีเหตุคนร้ายบุกเข้าไปก่อเหตุงัดตู้เซฟภายในห้องการเงิน ของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์ ในเวลากลางคืน กวาดเงินสดที่เก็บไว้จ่ายให้แก่นักศึกษาในโครงการเรียนฟรี 15 ปี และเงินที่ไว้ใช้จ่ายภายในวิทยาลัยฯ รวมมูลค่ากว่า 102,000 บาท แล้วหลบหนี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามแกะรอยคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง จนทราบว่า มีการก่อเหตุลักษณะเดียวกันในหลายท้องที่ เช่น จ.กาฬสินธิ์ จ.มหาสารคาม จึงได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพขณะคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ และตรวจสอบทราบว่าเป็น นายอุเทน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติออกหมายจับ นายอุเทน จนสามารถติดตามจับกุมได้ขณะหลบซ่อนอยู่ จ.นครปฐม ดังกล่าว
นายอุเทน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุงัดตู้เซฟของวิทยาลัยการเกษตรและเทคโนโลยีจริง โดยได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาดูลาดเลาภายในวิทยาลัยฯ หลายครั้งก่อนตัดสินใจลงมือ โดยใช้ไขควงงัดเข้าทางหน้าต่างห้อง แล้วใช้ชะแลงงัด และเลื่อยตัดเหล็กตู้เซฟก่อนกวาดเงินในตู้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี รวมทั้งได้ก่อเหตุงัดตู้เซฟ และลักทรัพย์มาแล้วหลายพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นสถานศึกษา โดยอ้างว่าเงินที่ได้นำไปจ่ายค่ายาเสพติดที่ติดค้าง และเล่นการพนัน
นอกจากนี้ จากการสอบสวนทราบว่า นายอุเทน ได้ร่วมกันพวกซึ่งมีทั้งคนไทย ชาวเวียดนาม ออกตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์มาแล้วหลายพื้นที่จังหวัด แต่ละครั้งได้ทรัพย์สินหลักแสนบาท ส่วนเงินหรือทรัพย์สินที่ได้จากการโจรกรรมจะนำเงินไปแบ่งกัน
จากการสอบประวัติ นายอุเทน เคยถูกจับกุมดำเนินคดีทั้งคดียาเสพติด และคดีอาญามาแล้วหลายคดี เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำมาไม่กี่เดือนก็มาก่อเหตุงัดตู้เซฟซ้ำอีก
หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายอุเทน ไว้ดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลและทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ” พร้อมทั้งจะได้สืบสวนขยายผลจับเพื่อนร่วมแก๊งมาดำเนินคดีต่อไป