อ่างทอง - คนเลี้ยงปลาบ่อดินชาวอ่างทอง ครวญน้ำในบ่อเลี้ยงปลาเริ่มขาด เผยลงทุนไปแล้วก่อนทราบข่าวทางชลประทานประกาศหยุดจ่ายน้ำ ขณะที่ชาวนาโวยชลประทานปล่อยน้ำไม่เท่ากัน อีกฝั่งน้ำเต็มคลอง ส่วนอีกด้านน้ำแห้งขอดคลอง หลังประกาศเตือนหยุดจ่ายน้ำตั้งแต่ 1 พ.ย.
วันนี้ (12 พ.ย.) นายเฉลิม นนทภัคดี อายุ 77 ปี ชาวบ้านผู้เลี้ยงปลาเบญจพรรณในบ่อดิน อยู่บ้านเลขที่ 51/1 หมู่ 1 ต.เทวราช อ.ไชโย จ.อ่างทอง เปิดเผยว่า ตนได้ลงทุนค่าอาหาร และปล่อยปลาไปในบ่อดินที่เช่าประมาณ 1 ไร่ ในราคา 4,000 บาทต่อปี และได้ปล่อยพันธุ์ปลาลงไปในบ่อแล้ว หลังจากนั้นจึงมาทราบข่าวทีหลังว่า ทางรัฐบาลให้เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท และทางชลประทานได้ประกาศหยุดจ่ายน้ำตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นมา
นายเแลิม กล่าวต่อว่า จากการประกาศหยุดจ่ายน้ำของชลประทานตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ตนได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากขณะนี้น้ำในบ่อปลาเริ่มลดระดับลงต่อเนื่อง จนทำให้ตนหวั่นว่าปลาที่เลี้ยงไว้ในบ่อดินจะได้รับความเสียหาย และจะต้องขาดทุนอย่างแน่นอน เนื่องจากขณะนี้ปลายังโตไม่ทันที่จะจับไปขาย
“ชาวนานั้นหยุดทำนายังได้รับเงินช่วยเหลือ แต่คนเลี้ยงปลาในบ่อดินอย่างผมไร้น้ำเลี้ยงปลา ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ จึงอยากให้ทางผู้มีอำนาจหันมามองคนเลี้ยงปลาในบ่อดินที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำเลี้ยงปลาจนต้องขาดทุนบ้าง” นายเฉลิม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากชลประทานจังหวัดอ่างทอง มีการติดป้ายประชาสัมพันธ์ประกาศเตือนชาวนาให้งดทำนา โดยมีขอความว่า “แล้งนี้ขาดน้ำ ชลประทานไม่มีน้ำต้นทุนที่จะสนับสนุน การทำนาปรังปี 2557/2558 ขอความร่วมมืองดปลูกข้าว หลีกเลี่ยงการขาดแคลนน้ำ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.57 ถึงวันที่ 30 เม.ย.58” แต่ก็ยังปรากฏว่า ในพื้นที่ จ.อ่างทอง ยังคงมีชาวนาบางส่วนทำนากันอยู่
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบน้ำในคลองชลประทานที่ขนานกับถนนสายอ่างทอง-ไชโยสายใน ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ตั้งแต่ประตูระบายน้ำบริเวณทางเข้าวัดบางศาลา ต.ชัยฤทธิ์ อ.ไชโย จ.อ่างทอง มาจนถึงประตูระบายน้ำบางแก้ว อ.เมืองอ่างทอง นั้น พบว่า ในคลองมีน้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ขณะที่อีกด้านตั้งแต่ทางเข้าวัดบางศาลา ต.ชัยฤทธิ์ ไปทาง อ.ไชโย จ.อ่างทอง กลับพบว่ามีน้ำเต็มคลอง ซึ่งได้สร้างความแปลกใจให้แก่ชาวนาที่ยังทำนากันอยู่อย่างมาก เนื่องจากขัดต่อป้ายประชาสัมพันธ์ประกาศเตือนชาวนาให้งดทำนาของชลประทานจังหวัดอ่างทองอย่างชัดเจน ซึ่งได้สร้างความแปลกใจให้แก่ชาวนาที่พบเห็นอย่างมาก
ชาวนาหลายรายพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ที่ผ่านมา ชาวนาทราบดีว่า ทางรัฐบาลได้ประกาศขอให้ชาวนาหยุดทำนา และให้เงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท และหยุดจ่ายน้ำตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ชาวนาส่วนใหญ่ยังคงทำนา และหวังใช้แหล่งน้ำจากคลองธรรมชาติ และที่มาพบเห็นการจ่ายน้ำของชลประทานที่ปล่อยน้ำให้มาในคลองชลประทานบางส่วน
“แต่ในวันนี้พบว่ายังปล่อยน้ำอยู่แต่ไม่เท่ากัน จึงไม่เข้าใจว่ามีเหตุผลไดถึงได้ปล่อยน้ำในคลองชลประทานมาไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยมาก็ควรให้ใช้ได้เหมือนกันหมดทั้งคลอง แต่ถ้าหยุดจ่ายน้ำก็ควรหยุดจ่ายทั้งคลองเช่นกันไม่ใช่ปล่อยน้ำแบบสองมาตรฐานเช่นนี้” ชาวนากลุ่มนี้ กล่าว
