กำแพงเพชร - คนร้ายบุกเดี่ยวจับพนักงานสาวเซเว่นฯ เป็นตัวประกัน ก่อนคว้ามีดหั่นไส้กรอกจี้คอ ตะโกนขอเงินห้าแสน พอไม่ได้ก็บอกขอ 1 แสน สุดท้ายคว้าได้แค่เงินในลิ้นชักใส่กระเป๋า ก่อนปล่อยตัวเหยื่อแล้ววิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ขับขี่หลบหนีไปท่ามกลางความมืด
ร.ต.ท.ไชยา ทวีผล พนักงานสอบสวน สภ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ของบริษัท เอ็ม.บี.ซี.แลนด์ จำกัด เลขที่ 21/2 ถนนพิทักษ์บุญยง ต.ถ้ำกระต่ายทอง อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร เมื่อเวลา 3 ทุ่มกว่าที่ผ่านมา (11 พ.ย.) จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางตลาดอำเภอพรานกระต่าย มีตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสินและธนาคารกสิกรไทยตั้งอยู่ด้านข้างของร้าน ส่วนปั๊มน้ำมันปิดให้บริการไปก่อนเกิดเหตุ จึงมีแสงไฟสว่างเฉพาะภายในร้านสะดวกซื้อเท่านั้น
เจ้าหน้าที่พบผู้เสียหายเป็นพนักงานสาว 3 คน คือ น.ส.ศรีไพร ราชบุตร อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 บ้านนาป่าแดง หมู่ที่ 1 ต.คุยบ้านโอง อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร, น.ส.ราตรี ดอนไพรศรี อายุ 30 ปี บ้านเขาแก้ว หมู่ที่ 3 ต.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร และ น.ส.พนิดา ขอนทอง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/3 บ้านเขาสว่างอารมณ์ ต.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร
จากการสอบสวนทราบว่า พนักงานทั้ง 3 คนทำงานอยู่ที่ร้านนี้มานานหลายปี ก่อนเกิดเหตุได้มีรถมาส่งสินค้า เมื่อเช็กของจนครบจำนวนแล้วรถส่งสินค้าก็กลับไป และเปิดประตูกระจกทางเข้าทิ้งไว้ ลูกค้าไม่มีแม้แต่คนเดียว เหลือเพียงพนักงานทั้ง 3 คนอยู่ในร้าน
ขณะที่ น.ส.ราตรีตรวจเช็กเอกสารอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์, น.ส.ศรีไพรเติมซอสอยู่ที่หน้าเคาร์เตอร์ ส่วน น.ส.พนิดากำลังเติมข้าวที่ตู้เย็นข้างเคาน์เตอร์ ก็มีคนร้ายบุกสวมเสื้อคลุมศีรษะเข้ามาโดยที่ไม่มีใครเห็น เข้าไปจับตัวล็อกคอนางสาวพนิดาทางด้านหลัง แล้วใช้มีดจี้ที่คอเป็นตัวประกัน
จากนั้นคนร้ายได้ส่งเสียงบอกให้ส่งเงินมา 5 แสน น.ส.ราตรีบอกว่า “ไม่มีกุญแจเปิด” คนร้ายต่อรองเหลือ 1 แสนก็ตอบว่าไม่มีเช่นเคย คนร้ายเห็นหมดหนทางจึงบอกเงินในเครื่องมีเท่าไหร่เอามาให้หมด พร้อมโยนกระเป๋าสะพายให้ใส่เงินทั้งสองลิ้นชัก ที่มีทั้งธนบัตร และเหรียญ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นเงินรวมแล้วเท่าไหร่
เสร็จแล้วคนร้ายสั่งให้ น.ส.ศรีไพร โยนกระเป๋าออกไปทางประตูหน้าที่เปิดทิ้งไว้ แล้วคนร้ายก็ปล่อยตัวประกัน และทิ้งมีดวิ่งไปคว้ากระเป๋าหลบหนีไปข้างร้าน ซึ่งเป็นถนนใหญ่ แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์หายไป เหยื่อทั้งสามคนก็อยู่ในอาการตกใจและร้องไห้ก่อนจะตั้งสติได้โทร.ไปบอกผู้จัดการให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุพบว่า มีดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุนั้นเป็นมีดหั่นไส้กรอกที่อยู่ภายในเซเว่นฯ นั่นเอง และจากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20-23 ปี สูงประมาณ 163 เซนติเมตร สวมแว่นสายตา กางเกงยีนส์ขาเดฟ รองเท้าแตะ สวมเสื้อผ้าร่มสีฟ้ามีหมวกคลุม และก่อนที่คนร้ายจะลงมือจี้ชิงทรัพย์อย่างอุกอาจกลางเมืองพรานกระต่าย พนักงานสอบสวนเพิ่งออกจากร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ไป คล้อยหลังได้ไม่นานก็มีการก่อเหตุดังกล่าว
พ.ต.อ.ชลิต วิริยะไกร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพรานกระต่าย ได้เรียกระดมชุดสืบสวนรวบรวมหลักฐานออกติดตามหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้เพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว
ล่าสุดเช้าวันนี้ (12 พ.ย.) พ.ต.อ.ชลิตเปิดเผยว่า จากการสอบสวนพยานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 20 ปี สวมเสื้อคลุมสีฟ้าแบบมีหมวกอยู่ที่คอเสื้อด้านหลังคลุมศีรษะ ทำทีเป็นลูกค้าเข้ามาซื้อของ จากนั้นได้ใช้อาวุธมีดที่ใช้หั่นไส้กรอกที่วางอยู่ภายในร้านจี้พนักงาน สั่งให้ส่งเงินให้ เมื่อได้เงินแล้ว (ประมาณ 3,000 บาท) คนร้ายได้วิ่งออกจากร้าน ขึ้นรถ จยย.ที่จอดไว้หลบหนีไป และได้สอบสวนปากคำพยานแล้ว จะได้สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป พร้อมได้นำภาพนิ่งจากกล้องวงจรปิดภายในร้านสะดวกซื้อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้สื่อข่าวเพื่อออกติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีโดยเร็ว