ตราด - ผู้ประกอบการค้าชายแดนคลองใหญ่ เผยค้าชายแดนเติบโตต่อเนื่อง เร่งรัฐบาลส่งเสริมขนส่งทางบก
นางสำราญ ประสิทธิเวช ผู้ประกอบการส่งสินค้าไปยังประเทศกัมพูชา และเจ้าของท่าเรือขนส่งสินค้า ส.กฤตวัณ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า การค้าส่งออกในปี 2557 มีมูลค่าการค้าที่ดีกว่าปี 2556 อย่างชัดเจน เพราะสถานการณ์ทางการเมืองของไทยดีขึ้น และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทางรัฐบาลกัมพูชา ทำให้การค้าขายชายแดนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
โดยเดือนตุลาคม 2557 มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคชาวกัมพูชา และนับจากนี้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นใน 2 เดือนปลายปีนี้ โดยเฉพาะช่วงหลังเทศกาลลอยกระทงของประเทศกัมพูชาที่เป็นเทศกาลใหญ่ในประเทศ ที่จะมีการเฉลิมฉลอง และหยุดงานท่องเที่ยวกัน แต่หลังจากนั้นจะมีการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น
“2 เดือนที่ผ่านมา คำสั่งซื้อสินค้าจากกัมพูชามีมาก โดยเฉพาะเครื่องดื่มมีคำสั่งซื้อเป็นอันดับ 1 เนื่องจากมีช่วงการเฉลิมฉลองช่วงลอยกระทง และใกล้ช่วงปีใหม่ที่ชาวกัมพูชาจะให้ความสำคัญมาก และจะหยุดงาน ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองของไทยเริ่มชัดเจน และมีการจัดตั้งรัฐบาลทำให้คำสั่งซื้อสินค้ามีเพิ่มมากขึ้น การขนส่งไม่สามารถทำได้มากนัก เนื่องจากแรงงานกัมพูชาเดินทางกลับบ้าน หลังลอยกระทงจะเดินทางกลับมา และจำทำให้การขนส่งสินค้ามีเพิ่มขึ้น ที่ประเมินขณะนี้มีเพิ่มกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว”
นางสำราญ กล่าวอีกว่า แนวโน้มการค้าชายแดนปี 2557 (ปลายปี) ถึงปี 2558 จะมีแนวโน้มที่ดีกว่าปีนี้อีก เนื่องจากเป็นปีที่ประเทศไทยเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และมีการผลักดันในเรื่องการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นในอำเภอคลองใหญ่ ที่จะเป็นปัจจัยในการเสริมมูลค่าการค้า และมีการลงทุนขึ้นใน 2 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา และมีความสะดวกเพิ่มมากขึ้นในการขนส่งทางบก ซึ่งจะเอื้อต่อการสร้างมูลค่าการค้าชายค้าชายแดนด้าน จ.ตราดเพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะสินค้าหลายตัวต้องการขนส่งที่รวดเร็ว รวมทั้งนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ประเทศ ได้หารือในการอนุญาตให้รถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ จำนวน 500 คัน เข้าไปยังกัมพูชา และส่งถึงพนมเปญได้ ซึ่งจะส่งเสริมให้มูลค่าการค้าเพิ่มสูงขึ้นด้วย
นางสำราญ ประสิทธิเวช ผู้ประกอบการส่งสินค้าไปยังประเทศกัมพูชา และเจ้าของท่าเรือขนส่งสินค้า ส.กฤตวัณ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า การค้าส่งออกในปี 2557 มีมูลค่าการค้าที่ดีกว่าปี 2556 อย่างชัดเจน เพราะสถานการณ์ทางการเมืองของไทยดีขึ้น และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทางรัฐบาลกัมพูชา ทำให้การค้าขายชายแดนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
โดยเดือนตุลาคม 2557 มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคชาวกัมพูชา และนับจากนี้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นใน 2 เดือนปลายปีนี้ โดยเฉพาะช่วงหลังเทศกาลลอยกระทงของประเทศกัมพูชาที่เป็นเทศกาลใหญ่ในประเทศ ที่จะมีการเฉลิมฉลอง และหยุดงานท่องเที่ยวกัน แต่หลังจากนั้นจะมีการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น
“2 เดือนที่ผ่านมา คำสั่งซื้อสินค้าจากกัมพูชามีมาก โดยเฉพาะเครื่องดื่มมีคำสั่งซื้อเป็นอันดับ 1 เนื่องจากมีช่วงการเฉลิมฉลองช่วงลอยกระทง และใกล้ช่วงปีใหม่ที่ชาวกัมพูชาจะให้ความสำคัญมาก และจะหยุดงาน ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองของไทยเริ่มชัดเจน และมีการจัดตั้งรัฐบาลทำให้คำสั่งซื้อสินค้ามีเพิ่มมากขึ้น การขนส่งไม่สามารถทำได้มากนัก เนื่องจากแรงงานกัมพูชาเดินทางกลับบ้าน หลังลอยกระทงจะเดินทางกลับมา และจำทำให้การขนส่งสินค้ามีเพิ่มขึ้น ที่ประเมินขณะนี้มีเพิ่มกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว”
นางสำราญ กล่าวอีกว่า แนวโน้มการค้าชายแดนปี 2557 (ปลายปี) ถึงปี 2558 จะมีแนวโน้มที่ดีกว่าปีนี้อีก เนื่องจากเป็นปีที่ประเทศไทยเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และมีการผลักดันในเรื่องการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นในอำเภอคลองใหญ่ ที่จะเป็นปัจจัยในการเสริมมูลค่าการค้า และมีการลงทุนขึ้นใน 2 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา และมีความสะดวกเพิ่มมากขึ้นในการขนส่งทางบก ซึ่งจะเอื้อต่อการสร้างมูลค่าการค้าชายค้าชายแดนด้าน จ.ตราดเพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะสินค้าหลายตัวต้องการขนส่งที่รวดเร็ว รวมทั้งนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ประเทศ ได้หารือในการอนุญาตให้รถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ จำนวน 500 คัน เข้าไปยังกัมพูชา และส่งถึงพนมเปญได้ ซึ่งจะส่งเสริมให้มูลค่าการค้าเพิ่มสูงขึ้นด้วย