ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - จนท.กั้นแนวเขตห้ามคนเข้าบ้านสารโพแทสเซียมคลอเรตระเบิดที่ดอยเต่า รอชุดพิสูจน์หลักฐาน และเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ พบเก็บสารดังกล่าวซึ่งเป็นยุทธภัณฑ์ และสารต้องห้ามไว้ในบ้านจำนวนมากเกินที่อนุญาตใช้เองและจำหน่าย ขณะที่เพื่อนบ้านเล่านาทีระทึกนึกว่า ฟ้าผ่า ออกมาดูเจอแต่บ้านพัง และคนเจ็บเสียงร้องครวญครางขอความช่วยเหลือ
จากกรณีที่ช่วงเย็นวานนี้ (5 พ.ย.) เกิดเหตุสารโพแทสเซียมคลอเรต ที่ชาวสวนนิยมใช้เร่งผลผลิตลำไย ระเบิดที่บ้านเลขที่ 34 บ้านไร่ หมู่ 2 ต.ดอยเต่า อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ได้รับความเสียหายทั้งหลัง และบ้านเรือนใกล้เคียงอีกกว่า 10 หลังได้รับความเสียหายไปด้วย โดยมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 7 รายนั้น เจ้าหน้าที่ยังคงกั้นแนวเขตห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าออกจุดเกิดเหตุ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่เข้าตรวจสอบ
เบื้องต้นพบว่าแรงระเบิดทำให้บ้านเสียหายทั้งหลัง 2 หลัง เช่น ฝ้าเพดานพัง ผนังบ้าน เป็นต้น อีกกว่า 10 หลัง ซึ่งทางอำเภอได้ตั้งโต๊ะรับแจ้งความเสียหายจากชาวบ้านเพื่อให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว
สำหรับบ้านหลังที่เกิดเหตุระเบิดเป็นของ นางพยอม นันต๊ะสาร อายุ 45 ปี ซึ่งในช่วงเกิดเหตุอยู่ภายในบ้าน กับนางสมใจ แสงแก้ว อายุ 42 ปี ขณะนี้ทั้งคู่ยังคงสูญหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าจะเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากพบเศษชิ้นเนื้อมนุษย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคล
พ.ต.อ.วาทยุทธ สิงห์ไผ่แก้ว ผกก.สภ.แม่กา อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวมีสารโพแทสเซียมคลอเรตอยู่ภายในบ้านจำนวนมาก คาดว่าจะเป็นสาเหตุของการระเบิด ทั้งนี้ เจ้าของบ้านเป็นเจ้าของสวนลำไย ซึ่งมีพื้นที่ปลูกกว่า 20 ไร่ ขายผลผลิตได้ปีละกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งต้องแจ้งข้อกล่าวหาต่อเจ้าของบ้าน แม้คาดว่าจะเสียชีวิตแล้ว เพราะมีความผิดที่มีสารดังกล่าวซึ่งเป็นยุทธภัณฑ์ และเป็นสารหวงห้ามไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่ได้รับอนุญาต เบื้องต้น คาดว่าเก็บไว้หลายร้อยกิโลกรัม ทั้งเพื่อใช้เองในสวน และจำหน่ายให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่
ขณะที่ นางทอง อินใจ เจ้าของบ้านที่อยู่ใกล้กับบ้านที่เกิดเหตุ เล่าเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุว่า ช่วงนั้นเวลาประมาณ 17.00 น. ตนเองกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว อยู่ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น และมีแรงสั่นสะเทือนมาถึงบ้าน ทำให้หลังคาบ้า นและฝาบ้านได้รับความเสียหาย หลังจากตั้งสติได้ก็ขึ้นไปพาลูก และหลานที่อยู่บนชั้น 2 ลงมาอยู่ด้วยกัน ตอนแรกนึกว่าเกิดฟ้าผ่า แต่พอออกมาดูต้นเสียงที่เกิดระเบิด พบภาพที่น่าตกใจ บ้านต้นเหตุ และบ้านใกล้กันพังเสียหายไปทั้งหลัง ได้ยินเสียงผู้ได้รับบาดเจ็บร้องขอความช่วยเหลือ จากนั้นชาวบ้านก็เข้ามาช่วยนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล สาเหตุนั้นตนก็ไม่มั่นใจ ส่วนสารโพแทสเซียมคลอเรต ก็ไม่ทราบว่ามีการเก็บไว้ในบ้านจำนวนมาก