ศูนย์ข่าวศรีราชา - โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา เดินหน้าพัฒนาศักยภาพงานบริการ และการรักษาให้เทียบเท่าโรงพยาบาลเอกชน หวังยกระดับสู่การเป็นโรงพยาบาลที่สามารถผลิตนักศึกษาแพทย์อย่างครบวงจร ภายใต้มาตรฐานโรงพยาบาลขนาด 400 เตียง ขณะเดียวกัน ยังเดินหน้าระดมทุนจากผู้มีจิตศรัทธา และจัดคอนเสิร์ตการกุศล สร้างอาคารวิจัยทางการแพทย์ ขนาด 10 ชั้น ภายใต้งบดำเนินการกว่า 900 ล้านบาท พร้อมสร้างแบรนด์ BUH ให้เป็นที่รู้จักของทั้งคนไทย และต่างชาติ
นายแพทย์สุริยา โปร่งน้ำใจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา เผยถึงการพัฒนาศักยภาพของโรงพยาบาลฯ หลังเปิดให้บริการในพื้นที่ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรีมานานถึง 30 ปี ตั้งแต่เริ่มเปิดใช้อาคารหลังแรก “อาคารท่านผู้หญิงประภาศรี” ในนามโครงการศูนย์บริการทางการแพทย์ ในปี 2527 และปี 2538 มหาวิทยาลัยบูรพา ได้มีโครงการขยายงานศูนย์บริการฯ ให้เป็นโรงพยาบาลเทียบเท่าขนาด 150 เตียงว่า ในปัจจุบัน โรงพยาบาลฯ ได้พัฒนาทั้งระบบงานบริการ และการรักษาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเปิดให้บริการในรูปแบบโรงพยาบาลขนาด 160 เตียง ที่มีแพทย์ และบุคลากรรวมทั้งสิ้นกว่า 200 คน มีศูนย์บริการโรคเฉพาะทางเกือบครบวงจร และศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
ในอนาคตโรงพยาบาลแห่งนี้ยังมีเป้าหมายอยู่ที่การเป็นโรงพยาบาลของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ที่จะสามารถผลิตนักศึกษาแพทย์ได้อย่างครบวงจร กล่าวคือ นักศึกษาแพทย์ในระดับชั้นปีที่ 4-6 จะสามารถฝึกงานได้ที่โรงพยาบาลฯ โดยไม่ต้องส่งไปฝึกงานยังโรงพยาบาลต่างๆ ภายใต้เงื่อนไขการเป็นโรงพยาบาลขนาด 400 เตียง ให้ได้ภายในปี 2564
โดยในขณะนี้โรงพยาบาลฯ มีโครงการก่อสร้างอาคารวิจัยทางการแพทย์ ซึ่งจะเป็นอาคารสูง 10 ชั้น ภายใต้พื้นที่ใช้สอย 3.9 หมื่นตารางเมตร และจะเพิ่มจำนวนเตียงได้อีก 320 เตียง ซึ่งจะทำให้โรงพยาบาลฯ มีจำนวนเตียงรวมทั้งสิ้น 480 เตียง ทั้งนี้ นอกจากจะเป็นการรองรับแผนขยายศักยภาพการจัดการเรียนการสอนของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาแล้ว ยังจะอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ให้แก่ผู้เข้ามาใช้บริการที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย
“นอกจากการพัฒนาโรงพยาบาลฯ ด้านการรักษาแล้ว เรายังเน้นปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบให้เกิดความสวยงาม เพื่อลบภาพลักษณ์เก่าๆ จากการเป็นแค่ศูนย์บริการทางการแพทย์ สู่การเป็นโรงพยาบาลของรัฐที่มีมาตรฐานงานบริการเทียบเท่าโรงพยาบาลเอกชน โดยจะเป็นโรงพยาบาลของชาวชลบุรีอย่างแท้จริง แต่ปัญหาคือ เรายังขาดแคลนงบประมาณ โดยเฉพาะการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ที่ใช้งบสูงถึง 910 ล้านบาท และเราต้องหางบสมทบช่วยรัฐบาล จำนวน 279 ล้าน ด้วยการเปิดรับบริจาคจากประชาชน และผู้มีจิตศรัทธา รวมทั้งจัดคอนเสิร์ตการกุศลในวันที่ 3 ธันวาคมนี้”
นายแพทย์สุริยา ยังเผยอีกว่า การเปิดใหม่ของโรงพยาบาลเอกชนที่มีมากในพื้นที่จากการเป็นเมืองอุตสาหกรรม และเมืองท่องเที่ยว ทำให้โรงพยาบาลของรัฐต้องปรับตัวตามทั้งในแง่งานบริการ และการรักษา ซึ่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา ก็มีการปรับปรุงด้านต่างๆ เพื่อให้ทันสมัย และสร้างการยอมรับของคนในจังหวัด ด้วยการสร้างแบรนด์ BURAPHA UNIVERSITY HOSPITAL หรือ BUH ให้เป็นที่รู้จัก และง่ายต่อการจดจำ เพื่อรองรับการเข้าสู่เออีซีด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ แม้ปัจจุบันโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา จะไม่หรูหราเท่าโรงพยาบาลเอกชน แต่ในแง่งานบริการได้มีการปรับรูปแบบให้ทัดเทียม เช่นเดียวกับการตรวจวินิจฉัยโรคต่างๆ เนื่องจากมีเครื่องมือที่ทันสมัย โดยเป้าหมายในอนาคตคือ การชูจุดแข็งด้านงานอายุรกรรม ที่จะรองรับกลุ่มผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น และปัจจุบันยังได้เพิ่มศูนย์บริการด้านต่างๆ ทั้งศูนย์กระดูก ศูนย์ล้างไต ศูนย์หัวใจ ศูนย์รักษาภูมิแพ้ ศูนย์เด็ก ฯลฯ ที่สำคัญยังเป็นโรงพยาบาลของรัฐที่มีห้องวีไอพีที่ได้มาตรฐานสำหรับรองรับการเข้าพักของเชื้อพระวงศ์
“โรงพยาบาลของเราต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามการเปลี่ยนไปของโลก เพราะเราไม่อยากเป็นเพียงโรงพยาบาลที่คนไข้เข้ามาเมื่อจำเป็น แต่เราจะเป็นโรงพยาบาลที่คนเข้ามาเพราะชื่อเสียงด้านการรักษา และงานบริการ จึงเห็นได้ว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เราได้เร่งแก้ไขภาพลักษณ์เก่าๆ และทำความเข้าใจต่อประชาชนในเรื่องของการจ่ายยาที่ตรงต่อการรักษา โดยไม่จ่ายยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ ที่ในอนาคตจะส่งผลเสียต่อคนไข้ แต่จะสร้างความเข้าใจเรื่องการใช้ยาที่ถูกต้องให้มากกว่า” นายแพทย์สุริยา กล่าว