พระนครศรีอยุธยา - บุกตรวจจุดที่รถนักท่องเที่ยวไหลลงบ่อน้ำขณะลงไปทำบุญไหว้ “หลวงพ่อมงคลบพิตร” ที่อยุธยา พบเป็นพื้นที่สาธารณะของปางช้างกับกรมศิลป์ ที่ไม่มีใครมาคอยดูแล นักท่องเที่ยวสามารถนำรถมาจอดกันเองได้ แม่ค้ากาแฟที่เห็นเหตุการณ์เผยเห็นรถไหลลงน้ำกับตา คาดเจ้าของรถอาจลืมดึงเบรกมือและตั้งเวลาดับเครื่อง จึงทำให้รถสั่น และไหลลงไปในบ่อน้ำเอง
จากกรณีเหตุการณ์นักท่องเที่ยวพาแม่ และน้องชาวมาทำบุญไหว้ “หลวงพ่อมงคลบพิตร” อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วจอดรถทิ้งไว้ที่บริเวณลานจอดพอกลับมาหารถไม่พบคิดว่าโดนขโมย สุดท้ายเจอรถไหลลงไปในบ่อน้ำขนาดใหญ่จมมิดทั้งคันอย่างมีปริศนาเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น
ต่อมา วันนี้ (3 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอีกครั้งเพื่อสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์ หรือผู้ที่พอจะทราบที่มาที่ไปของสาเหตุกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพบว่าพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นำรถเข้ามาจอดนั้นเป็นที่ของปางช้างอยุธยา กับกรมศิลป์
แต่ในส่วนที่รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตู ตกลงไปในบ่อน้ำเมื่อวันที่ 2 พ.ย.นั้น อยู่ในส่วนของปางช้างอยุธยา แต่ก็ไม่ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่มาคอยเฝ้าระวัง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณะ ใครจะมาจอดก็ได้ไม่มีการห่วงห้าม อีกทั้งยังเป็นช่วงเสาร์-อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมาก และพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะมาจอดรถกันจำนวนมากอยู่แล้ว เนื่องจากอยู่ใกล้ปางช้างอยุธยา ศาลหลักเมืองอยุธยา และวิหารพระมงคลบพิตร โดยส่วนใหญ่เมื่อนำรถมาจอดแล้วจึงออกไปเดินเที่ยวตามจุดต่างๆ
อีกทั้งพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นลานจอดรถที่เป็นทางลาดอยู่แล้ว โดยมีบ่อน้ำอยู่เป็นส่วนๆ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาจอดจะหาที่จอดกันเองแล้วลงไปเดินท่องเที่ยวในละแวกดังกล่าว
นางศิริพร มโนเกศ อายุ 39 ปี แม่ค้ารถกาแฟรถพ่วงข้าง ที่อยู่ใกล้กับจุดที่รถตกลงไปในน้ำ ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ช่วงที่ตนกำลังชงกาแฟขายตามปกติ ก็ได้เห็นรถกระบะคันดังกล่าวไหลใกล้ตกลงไปในบ่อ ตอนแรกนึกว่าคนถอยรถ และไม่คิดว่าจะตกลงไปในน้ำ
“เมื่อรถตกลงไปในน้ำ ชาวบ้าน หรือคนที่เห็นต่างรีบมาดูก่อนกระโดดลงไปช่วยเนื่องจากคิดว่ามีคนอยู่ในรถเนื่องจากเห็นรถสตาร์ทเครื่องติดอยู่ตอนไหลลงไปในบ่อน้ำ แต่ปรากฏว่า ไม่มีใครอยู่ในรถเลย จนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงเจ้าของถึงได้ออกมาแล้วไม่เห็นรถตนเองจึงเดินหาจนไปพบตกอยู่ในบ่อน้ำ”
นางศิริพร กล่าวว่า ในส่วนที่จะมีคนมาบอกว่าไม่ต้องดึงเบรกมือนั้น ตนไม่แน่ใจเนื่องจากไม่ได้ยินเอง และไม่คิดว่าใครจะไปบอก เนื่องจากส่วนใหญ่ที่มาจอดก็หาที่จอด และดึงเบรกมือล็อกรถกันเองทุกคันอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นพื้นที่สาธารณะไม่มีใครมาค่อยดูแล แต่ถ้าจะบอกว่ามีคนเข็นลงไปไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากถ้ามีคนเข็นพอรถไหลก็ต้องมาเข็นกลับอยู่แล้วไม่มีใครใจร้ายใจดำทำกันได้ อีกทั้งเครื่องที่ยังติดอยู่เป็นไปได้ที่รถคันดังกล่าวติดตั้งระบบวอร์มเครื่องก่อนดับประมาณ 5 นาที ที่วัยรุ่นนิยมติดตั้งกับรถ ที่เวลาจอดดึงกุญแจแต่รถยังไม่ดับต้องรอเวลาตามที่ตั้งไว้ถึงจะดับ
“อาจเป็นไปได้ที่เจ้าของรถเมื่อนำรถมาจอดแล้วลงจากรถแล้วล็อกรถทันทีโดยที่ไม่ทันได้ดึงเบรกมือไว้แล้วเดินไปเที่ยวเลยโดยที่รถยังไม่ทันได้ดับสนิท เนื่องจากตั้งเวลาดับเครื่องเอาไว้ จึงทำให้เครื่องยนต์ที่ทำงานอยู่ทำให้รถสั่น และไหลตกลงไปในน้ำเอง จึงอยากฝากเตือนผู้ที่นำรถมาจอดในพื้นที่ดังกล่าวโดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สาธารณะ ไม่มีใครมาค่อยดูแล เวลาจอดรถควรตรวจดูให้แน่นอน และดึงเบรกมือให้เรียบร้อย มิเช่นนั้นอาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกได้” นางศิริพร กล่าว