ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เทศบาลนครเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจร้านจำหน่ายพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ คุมเข้มห้ามขายประทัดยักษ์-พลุอันตราย เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวช่วง “ยี่เป็ง” เผยเตรียมจัด จนท.แฝงตัว หากพบมีการจุดเล่นสร้างความเดือดร้อนรำคาญจะทำการจับกุมดำเนินคดีทันที
วันนี้ (3 พ.ย.) นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ออกตรวจร้านจำหน่ายพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ ย่านตลาดวโรรส ในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยเน้นการตรวจและห้ามจำหน่ายประทัดยักษ์และพลุที่อาจจะเป็นอันตราย ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงงานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ประจำปี 2557 ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นไม่พบว่ามีการจำหน่ายประทัดยักษ์หรือพลุที่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่เปิดเผยว่า การออกตรวจร้านจำหน่ายพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟครั้งนี้เป็นหนึ่งในมาตรการสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงยี่เป็ง เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมามักจะมีผู้เล่นพลุและประทัดยักษ์สร้างความเดือดร้อนรำคาญ รวมทั้งก่อให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว จึงได้มีการตรวจสอบและห้ามไม่ให้มีการจำหน่ายประทัดยักษ์อย่างเด็ดขาด ซึ่งเบื้องต้นพบร้านค้าต่างๆ ให้ความร่วมมืออย่างดีไม่มีการนำมาจำหน่าย
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะมีการนำเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจตลอดช่วงงานยี่เป็ง หากพบมีการจำหน่ายประทัดยักษ์จะทำการจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ขณะที่ในช่วงระหว่างการจัดงานยี่เป็งจะมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกแฝงตัวในกลุ่มประชาชนและนักท่องเที่ยวด้วย หากพบว่ามีผู้ที่เล่นประทัดยักษ์หรือเล่นดอกไม้ไฟในลักษณะก่อความเดือดร้อนรำคาญและเป็นอันตรายก็จะทำการจับกุมดำเนินคดีด้วยเช่นกัน พร้อมระบุว่า อันตรายที่เกิดจากการเล่นดอกไม้ไฟส่วนใหญ่มักจะมาจากการเล่นผิดวิธีและความประมาทคึกคะนอง ซึ่งจะต้องมีการเน้นย้ำกำชับกันให้มากขึ้น
นอกจากนี้ นายทัศนัยได้ย้ำขอความร่วมมือจากประชาชนและนักท่องเที่ยวในเรื่องของการปล่อยโคมลอย ด้วยการปล่อยในช่วงเวลาที่กำหนดไม่ให้กระทบต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน และควรเลือกปล่อยในสถานที่โล่งแจ้งไม่ได้อยู่ในย่านบ้านเรือนประชาชน อาคาร สิ่งปลูกสร้าง และสายไฟฟ้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายและความเสียหาย ตลอดจนจะมีการเข้มงวดการรณรงค์ให้ร้านค้างดขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและการทะเลาะวิวาท
