ตร.จันท์คุมตัวน้าชายฆ่าหั่นศพหลานทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

จันทบุรี - ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี นำผู้ต้องหาที่เป็นน้าชายฆ่าโหดหลานชายตัวเองที่ใช้ค้อนปอนด์ทุบหัว ก่อนฆ่าหั่นศพแยกชิ้นส่วนโยนทิ้งร่องน้ำ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

วันนี้ (3 พ.ย.) ที่บริเวณร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ไม่มีเลขที่ ภายในสนามกีฬาจังหวัดจันทบุรี ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้นำตัว นายยศ กันแก้ว อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 552 หมู่ที่ 5 ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ผู้ต้องหาที่ฆ่าโหด นายถาวร อินต๊ะจันทร์ อายุ 41 ปี ที่เป็นหลานชายแท้ๆ ของตัวเอง อยู่บ้านเลขที่ 441 หมู่ที่ 10 ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในครั้งนี้ มีประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรี เดินทางมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ทางตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ต้องมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สายตรวจ จราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ อส. และ นพค.เข้ามาดูแลความปลอดให้แก่ผู้ต้องหารายนี้อย่างเข้มงวดในช่วงการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะหวั่นผู้ต้องหารายนี้อาจจะถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ได้

นายยศ กันแก้ว ให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เหตุที่ทำไปเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ประกอบกับผู้ต้องหาได้ไปทวงเงินหลานชาย จำนวน 1,200 บาท แต่ถูกหลานชายปฏิเสธ และถูกหลานชายต่อว่าอย่างรุนแรง และยังมาถูกหลานชายทำร้ายจึงเกิดความโมโห และผูกใจเจ็บ ก่อนที่จะไปซื้อเหล้ามาดื่มย้อมใจ และรอจังหวะในช่วงที่หลานชายนั่งดูทีวีอยู่ภายในร้าน ใช้ค้อนปอนด์ทุบไปที่ศีรษะ จำนวน 2 ครั้ง ก่อนที่หลานชายจะล้มฟุบจมกองเลือด

จากนั้นจึงได้ใช้มีดทำครัว และมีดปังตอที่อยู่ภายในร้านก๋วยเตี๋ยวตัดส่วนศีรษะออกก่อน ก่อนที่จะตัดแขน และเอว แยกชิ้นส่วนลงร่องน้ำข้างร้านก๋วยเตี๋ยวที่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร

หลังจากนำชิ้นส่วนโยนลงร่องน้ำเสร็จ ก็กลับมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเพื่อมาทำความสะอาดล้างพื้นที่เปรอะเปื้อนเลือดออก ก่อนที่ในช่วงเช้าจะเดินเท้าเพื่อหลบหนี จนมาในช่วงเย็นวานนี้ได้มีพลเมืองดีได้เห็นผู้ต้องหาที่ฆ่าหลานชายตัวเองเดินเท้าอยู่บริเวณสี่แยกวัดไผ่ล้อม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงพื้นที่ และเข้าจับกุมได้ดังกล่าว

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การต่ออีกว่า เหตุที่ทำไปเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น หลังฆ่าหลานชายตนเองก็ได้สำนึกผิดจึงได้เดินเท้าเพื่อไปหาคนรู้จักเพื่อที่จะให้คนรู้จักพามามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยไม่ได้คิดหลบหนีไปไหน ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ที่สี่แยกวัดไผ่ล้อมเมื่อวานนี้