ไอ้หนุ่มดอกคำใต้สิ้นฤทธิ์ วิ่งราวฉกสร้อยพระเครื่อง เจ้าของไล่กวดสวดให้ล้มได้ผล

เชียงราย - หนุ่มดอกคำใต้ตระเวนวิ่งราวทรัพย์ทั้งในเขตพะเยา เชียงรายหลายครั้ง ล่าสุด ลงมือกระชากสร้อยทองพร้อมเหรียญครูบาคำหล้า กลางเมืองพ่อขุนฯ เจ้าของไล่กวดพร้อมอธิษฐานให้รถล้ม สุดท้ายถูก ตร.ไล่จับจน จยย.ล้มจริง สอบประวัติพบก่อคดีไว้เพียบ

พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว ผกก.สภ.เมืองเชียงราย แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดีวิ่งราวทรัพย์วานนี้ (31 ต.ค.) โดยมีผู้ต้องหาชื่อ นายอนุวัฒน์ เทพวัง อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 176 ม.10 ต.ดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท พระเหรียญครูบาคำหล้า รุ่น 1 จำนวน 1 เหรียญ

เหตุวิ่งราวทรัพย์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะ นางจุรีภรณ์ คำธาน อายุ 56 ปีชาว ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย เดินอยู่ข้างถนนสันโค้งน้อย ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย แล้วถูกคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าประชิด ก่อนกระชากสร้อยคอ และพระเครื่องที่สวมคออยู่ แล้วขับรถหนีไปอย่างรวดเร็ว

หลังเกิดเหตุ นางจุรีภรณ์ พยายามวิ่งไล่แต่ไม่ทัน จึงอธิษฐานขอให้รถคนร้ายล้มลง ขณะที่ผู้พบเห็นเหตุการณ์ก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไล่ติดตาม จนเจ้าหน้าที่ออกไล่ไปทันบริเวณซอย 6 ของถนนสายเดียวกัน และเข้าประชิดจนทำให้รถจักรยานยนต์ของคนร้ายล้มลง ก่อนเข้าจับกุมตัวไว้ เมื่อตรวจสอบหลักฐานก็พบว่า เป็นคนที่ก่อเหตุจริง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สงสัยว่า นายอนุวัฒน์ อาจจะเป็นผู้ก่อเหตุขี่รถจักยานยนต์กระชากสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 สลึง ของ น.ส.พรพรรณ มหาปุริริมกุล อายุ 17 ปี ชาว ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และหลบหนีไปได้ เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมาด้วย

เจ้าหน้าที่จึงสอบสวน นายอนุวัฒน์ เบื้องต้นให้การว่า เป็นผู้ลงมือฉกสร้อยคอของ น.ส.พรพรรณ ไปจริง โดยได้นำไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งเขต อ.จุน จ.พะเยา ในราคา 8,900 บาท เจ้าหน้าที่ สภ.เมือง จ.เชียงราย จึงประสานไปยังตำรวจ จ.พะเยา ก็ทราบว่า เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ก็มีเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ประชาชนท้องที่พะเยา ได้สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาทเช่นกัน จึงสงสัยว่าจะเป็น นายอนุวัฒน์ เพราะได้มีการจับภาพเอาไว้แล้ว จึงจะมีการนำตัวไปเปรียบเทียบดำเนินคดีเพิ่มอีกคดีหนึ่งด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว นายอนุวัฒน์ พร้อมของกลางทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.ชูวิทย์ กล่าวว่า คดีอาชญากรรมในพื้นที่รับผิดชอบที่ผ่านมา โดยเฉพาะคดีลักทรัพย์และวิ่งราวทรัพย์ คนก่อเหตุส่วนใหญ่จะเป็นคนนอกพื้นที่ ดังนั้น ขอให้ประชาชนช่วยกันระมัดระวังโดยเฉพาะเทศกาลต่างๆ คอยเป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่พยายามดูแลอย่างเต็มที่อีกทางหนึ่งด้วย