...ก่อนเที่ยงวัน 29 ต.ค. ทันทีที่ศาลจังหวัดขอนแก่นอ่านคำพิพากษาเสร็จ นางลำดวน โคตรทุม และลูกสาว ได้โผกอดกันร่ำไห้แบบไม่ได้นัดหมาย ญาติๆ ได้พยายามโอบไหล่ให้กำลังใจไม่ห่าง จากนั้นสองแม่ลูกได้เดินลงจากศาลด้วยคราบน้ำตา…
เป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังทราบผลคำตัดสินของศาลชั้นต้นในคดีนายสุชาติ โคตรทุม อดีตปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น (อบจ.ขอนแก่น) ผู้ซึ่งเป็นสามีถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต โดยศาลให้ พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม จำเลยที่ 2 ถูกจำคุกตลอดชีวิต และให้นายประพันธ์ ศรีวิลัย จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยมิได้ไตร่ตรองไว้ก่อน จำคุก 37 ปี 14 เดือน 30 วัน ส่วนจำเลยอีก 3 คนนั้นศาลได้สั่งให้ยกฟ้อง
เหตุผลที่ศาลอธิบายว่า..ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยมิได้ไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น ด้วยเหตุแห่งพฤติกรรมมีการลงไปพูดคุยและผลักผู้ตายเข้าไปในรถ ประกอบกับรถที่จอดขวางผู้ตายมิใช่ลักษณะเตรียมพร้อมจะหลบหนี จึงไม่น่าเป็นเรื่องที่ตั้งใจทำ เพราะถ้าเช่นนั้นก็ต้องมีการยิงเลย แต่มีการพูดคุย มีการทำร้ายร่างกายแล้วจึงลงมือยิง
ขณะที่ฝ่ายผู้ต้องหาเมื่อฟังคำพิพากษาจบ เจ้าหน้าที่ก็ได้ควบคุมขึ้นรถเรือนจำกลับไปด้วยสีหน้าที่ปนรอยยิ้ม และระหว่างที่นั่งรอผู้พิพากษาในห้องพิจารณาคดีได้พูดคุยเคล้าด้วยเสียงหัวเราะแบบสบายใจด้วยซ้ำ
คดีสะเทือนขวัญดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 3 พ.ค. 56 มีคนร้าย 4 คนได้ร่วมกันก่อเหตุยิงนายสุชาติ โคตรทุม ปลัด อบจ.ขอนแก่น (ขณะนั้น) เสียชีวิตที่หน้าบ้านพักบ้านเลขที่ 198/45 หมู่บ้านจอมพล ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น ก่อนที่คนร้ายจะพากันหลบหนีไป
ภายหลังเกิดเหตุเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมากว่า กลุ่มคนร้ายที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่าหนึ่งในนั้นคือ พ.ต.ท.สมจิต แก้วพรม มีตำแหน่งเป็นถึง รอง ผกก.(ป.) สภ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น และเป็นหัวหน้าชุดและมือสังหาร การติดตามจับกุมหรือดำเนินคดีอาจจะไม่คืบหน้าหรือไม่สามารถนำตัวมาลงโทษได้ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะช่วยเหลือกันเอง
ในที่สุดหลังจากนั้น รวมเวลาหลายเดือนพอสมควรเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ครบ โดย พ.ต.ท.สมจิต แก้วพรม ผู้ต้องหาในฐานะหัวหน้าชุดสังหารนายสุชาติ เป็นฝ่ายขอติดต่อมอบตัวเอง
คดีนี้ตำรวจภูธรภาค 4 ได้ทำงานร่วมกับตำรวจกองปราบปรามเพื่อแก้ข้อครหา ที่หลายฝ่ายมองว่าตำรวจภูธรภาค 4 จะให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจด้วยกันและจะมีการตัดตอนโยงไปถึงผู้บงการที่เป็นถึงนักการเมืองใหญ่ ซึ่งตำรวจกองปราบปรามได้ส่งชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนมาร่วมทำคดีและร่วมสรุปสำนวนก่อนส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดขอนแก่น
ในเบื้องต้นแม้ผู้ต้องหา 4 ใน 5 คนจะให้การปฏิเสธและไม่ให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวน ยกเว้น ด.ต.วีระศักดิ์ ชำนาญพล อดีต ผบ.หมู่.(ป.) สภ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น แต่พยานหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมด ทั้งพยานบุคคล และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ตำรวจชุดคลี่คลายคดีเชื่อว่ามีมากพอที่จะทำให้คนร้ายดิ้นไม่หลุด
ส่วนประเด็นการสังหาร ตำรวจภูธรภาค 4 ได้สืบสวนสอบสวนขยายผลควบคู่กับการทำงานของชุดเฉพาะกิจของกองปราบปราม ซึ่งนำโดย พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. และ พ.ต.อ.วรวุฒิ คุณะเกษม ผกก.3 บก.ป. ผลการสืบสวนของตำรวจทั้งสองหน่วยงานสอดคล้องกัน คือให้น้ำหนักไปในเรื่องชู้สาว มากกว่าเรื่องความขัดแย้งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ของนายสุชาติ
เหตุที่นางลำดวน ภรรยาอดีตปลัด อบจ.ขอนแก่น อดจะร่ำไห้ไม่ได้หลังฟังคำพิพากษาเสร็จ คงพอจะมองออกแล้วคดีนี้ไม่น่าจะสามารถเชื่อมโยงเอาผิดคนที่บงการฆ่าสามีเธอได้ พยานหลักฐานในสำนวนคดีน่าจะเอาผิดได้แค่ พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม จำเลยที่ 2 โทษจำคุกตลอดชีวิต และนายประพันธ์ ศรีวิลัย จำเลยที่ 3 จำคุก 37 ปีเศษ และกว่าจะสู้คดีกันอีก 2 ศาลคงทอดเวลาอีกนานหลายปี ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะจบอย่างไร
ส่วนตัวผู้บงการนั้น แม้ก่อนหน้านี้จะถูกจับก็จับกันแบบเงียบๆ ไม่เป็นข่าวครึกโครมให้สาธารณชนรับรู้ เหมือนตอนที่นายสุชาติถูกฆ่าตาย
ที่สำคัญขณะนี้ “เขา” หรือผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัยบงการจ้างวานฆ่า ก็ได้รับการประกันตัวออกไปสู้คดีแล้วเช่นกัน.....