เอเอฟพี - ตำรวจอินโดนีเซียออกมาระบุในวันนี้ (22 ต.ค.) ถึงคดีที่มีชาวอังกฤษถูกปาดคอแล้วทิ้งศพไว้ในคูน้ำบนเกาะบาหลี ว่าภรรยาของเหยื่อได้ยอมรับแล้วว่าเป็นผู้บงการฆ่า
โรเบิร์ต เอลลิส ชายชาวอังกฤษวัย 60 ปีที่ถือพาสปอร์ตออสเตรเลียด้วยอีกหนึ่งเล่ม ถูกภรรยาชาวอินโดนีเซียบงการฆ่า ซึ่งตำรวจคาดว่ามีแรงจูงใจมาจากเรื่องทรัพย์สินเงินทอง
เอลลิส ผู้ใช้ชีวิตอยู่ในบาหลีเป็นเวลาหลายปีแล้ว ถูกชาวบ้านพบเป็นศพเน่าเฟะ ห่อด้วยพลาสติกและผ้าห่มถูกทิ้งอยู่ในคูน้ำข้างทุ่งนา ในช่วงรุ่งสางของวันอังคาร (21 ต.ค.)
ด้านภรรยา "จูไลกาห์ นัวร์ เอลลิส" ได้ไปแจ้งตำรวจว่าสามีของเธอหายตัวไป หลังจากที่มีการพบศพได้ไม่นาน ซึ่งต่อมาเธอถูกตำรวจควบคุมตัวไว้ในฐานะผู้ต้องสงสัยของคดีนี้
"เราตั้งข้อสงสัยไปที่ภรรยาของเหยื่อเป็นลำดับแรก เมื่อมีเพื่อนของผู้ตายเล่าให้ฟังว่าทั้งคู่มีปัญหากันมาระยะหนึ่งแล้ว หลังจากที่สอบปากคำเธออย่างละมุนละม่อมไปสักพักหนึ่ง เธอก็ยอมรับในท้ายที่สุด" นักสืบ วิษณุ วาร์ดานา กล่าว
ตำรวจระบุอีกว่า เธออยู่ในบ้านด้วย ตอนที่มีการฆาตกรรมสามีของเธอ แต่เธอบอกว่าตอนนั้นเธออยู่ในห้องของตัวเอง โดยมีแฟนหนุ่มของแม่บ้านเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ส่วนแม่บ้านก็ได้ยอมรับว่าอยู่ในครัวของเอลลิสช่วงเย็นวันอาทิตย์ถึงเช้าวันจันทร์
ภรรยา แม่บ้านอีก 2 คนและแฟนหนุ่ม ทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้แล้ว ขณะที่เพื่อนอีก 4 คนของฆาตกร ถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องและกำลังถูกตำรวจตามล่า
เอลลิสเคยอาศัยอยู่ที่บ้านหรูหลังใหญ่ในซานูร์ ก่อนที่จะถูกพบเป็นศพอยู่ในหมู่บ้านที่อยู่ทางเหนือของเขตนักท่องเที่ยวที่ห่างไกลจากบ้านเรือนผู้คนบนเกาะบาหลี
เดิมทีเขาเป็นคนอังกฤษ แต่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในออสเตรเลียเป็นเวลานาน ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ในบาหลี ทำให้เอลลิสมีสองสัญชาติ