สธ.ตราด วอนสื่อลดเกาะติดข่าวผู้ป่วย “ชาวออสซี่” เข้าเกณฑ์สอบสวนเชื้อไวรัสอีโบลา เผยเจ้าตัวเริ่มเครียด

ตราด - นายแพทย์สาธารณสุขตราด วอนสื่อลดการเสนอข่าว และติดตามผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนเชื้อโรคติดต่อไวรัสอีโบลา ชาวออสเตรเลีย ที่เดินทางจากคองโก เข้ามาอาศัยอยู่กับภรรยาในพื้นที่ เหตุเจ้าตัวเริ่มเครียด ยันตราด ยังไม่มีปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา เพียงแต่ผู้ป่วยคนดังกล่าวอยู่ในช่วงเฝ้าระวังตามระยะฟักตัว 21 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 5 พ.ย.นี้เท่านั้น

วันนี้ (28 ต.ค.) นายแพทย์ชรัตน์ วสุธาดา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตราด พร้อมด้วยนายแพทย์พิเชียร วุฒิสถิรภิญโญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตราด ได้นำคณะสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบความพร้อมของห้องแยกโรค งานควบคุมและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล รวมทั้งงานอาชีวอนามัย โรงพยาบาลตราด เพื่อยืนยันความพร้อมในการดูแลรักษาผู้ป่วย และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล โดยเฉพาะการดูแลผู้ติดเชื้ออีโบลา หลังมีการเผยแพร่ข่าวว่า จังหวัดตราดพบผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนเชื้อไวรัสอีโบลา ชาวออสเตรเลีย ซึ่งปัจจุบันอาศัญอยู่กับภรรยาในเขตอำเภอเมือง

โดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตราด ได้อธิบายถึงการเตรียมความพร้อมในการรองรับการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา (Ebola) ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ว่า ขณะนี้แม้ในพื้นที่จังหวัดตราด จะยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อ มีแต่เพียงการเฝ้าระวังชาวออสเตรเลีย ที่เดินทางมาจากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งมีระยะเวลาในการเฝ้าระวังตามระยะฟักตัวของโรค 21 วัน และจะครบกำหนดในวันที่ 5 พ.ย.นี้เท่านั้น ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตราด ได้ส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ในส่วนของห้องแยกโรคของโรงพยาบาลตราด ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในการป้องกันปัญหาโรคติดเชื้อมาตั้งแต่ครั้งมีการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส ในประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อน โดยมีทั้งห้องระบบปิด ระบบกำจัดเชื้อ และการปรับระดับการถ่ายเทอากาศให้มีความดันห้องต่ำ เพื่อมิให้มีการแพร่กระจายเชื้อสู่ภายนอก

นอกจากนั้น ยังมีเครื่องมือ เครื่องใช้ และการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีความชำนาญในการปฏิบัติ ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตราด และโรงพยาบาลตราด ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบการป้องกันของจังหวัด แม้พื้นที่จังหวัดตราด จะยังไม่พบปัญหาหากผู้ป่วยติดเชื้อ

“ส่วนความคืบหน้าในการควบคุม และดูแลผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนเชื้อโรคติดต่อเชื้อไวรัสอีโบลา ชาวออสเตรเลียนั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมเก็บข้อมูลต่างๆ ทางการแพทย์เพื่อนำมาวิเคราะห์ โดยพบว่าขณะนี้ทุกอย่างยังเป็นไปตามปกติ และไม่มีปัญหาใดๆ แต่ที่เริ่มเกิดปัญหาคือ การที่ผู้ป่วยรับทราบข่าวสารจากหนังสือพิมพ์ ทีวีเกี่ยวกับเรื่องราวของตน จนทำให้เกิดความเครียด”

“จึงวอนมายังสื่อมวลชนว่า ไม่ควรติดตามความเคลื่อนไหว หรือเสนอข่าวสารมากเกินไป เพราะหวั่นว่าจะส่งผลกระทบต่อเพื่อนบ้าน ที่อาจก่อให้เกิดความหวาดกลัว และอาจทำให้บุคคลดังกล่าวพยายามปกปิดประวัติของตนเพื่อไม่ให้ถูกจับตา” นายแพทย์ชรัตน์ กล่าว