ตำรวจมหาสารคามเร่งล่าคนร้ายใจบาปฆ่าตัดขาแม่หมูตั้งท้อง

มหาสารคาม - ตำรวจมหาสารคาม เร่งหาตัวโจรจิตวิปริตย่องตัดขาแม่หมูป่าตายท้องกลม พร้อมลูกในท้อง 14 ตัว มั่นใจคนร้ายเป็นคนในพื้นที่

หลังจากมีการเผยแพร่ข่าวบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ถึงเหตุการณ์ความโหดร้ายของบุคคลที่บุกเข้ามาในคอกหมูชาวบ้านแห่งหนึ่งที่ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ก่อนใช้ปืนยิงแม่หมูที่กำลังตั้งท้องลูกและตัดขาแม่หมูป่าไปทั้ง 4 ขา ทำให้แม่หมูตัวดังกล่าวตายพร้อมลูกอยู่ในท้อง จำนวน 14 ตัว สร้างความเวทนาแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

ล่าสุด วันนี้ (24 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านทับครัว หมู่ 9 ในตำบลดงใหญ่ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เพื่อพบกับ นายบุญเรือง นามสมบูรณ์ อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.9 ต.ดงใหญ่ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เจ้าของหมูป่า ตรวจสอบจุดเกิดเหตุซึ่งตั้งอยู่ภายในป่า ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กม. สภาพเป็นถนนลูกรังการเดินทางเข้าถึงลำบาก โดยนายบุญเรือง ได้เลี้ยงหมูป่าไว้จำนวน 13 ตัว เป็นพ่อพันธุ์ 1 ตัว ลูกหมู 13 ตัว แม่พันธุ์ 1 ตัว เดิมมีแม่พันธ์ 2 ตัว แต่ถูกคนร้ายฆ่าทิ้งไป 1 ตัว โดยหมูแม่พันธุ์ที่ถูกคนร้ายฆ่าตัดขา 4 ขา เป็นแม่พันธ์ท้องแก่ใกล้คลอด น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 90 กก.

นายบุญเรือง เจ้าของคอกหมู เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 23 ต.ค.57 ได้นำวัวมากินหญ้าในสวนของตัวเอง และเป็นที่ตั้งของคอกเลี้ยงหมูป่า พบว่า คอกถูกงัดทำลาย และพบซากแม่หมูนอนตายอยู่ที่พื้นดิน โดยที่ขาทั้ง 4 ข้างถูกคนร้ายตัดเอาไป ส่วนลำตัวใส้ทะลักออกมา ส่วนที่กะโหลกมีรอยถูกยิงด้วยปืนแก๊ปเป็นรูกว้างขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ ที่น่าเวทนาคือ ท้องแม่หมูมีลูกหมูอยู่ถึง 14 ตัว ซึ่งชาวบ้านที่ทราบข่าวมาดูเหตุการณ์ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงความโหดเหี้ยมของคนร้ายรายนี้ที่ก่อเหตุ โดยชาวบ้านได้นำลูกหมู และซากแม่หมูไปฝังกลบแล้ว

ด้าน ร.ต.อ.ทวี ไชยสีดา ร้อยเวร สภ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม กล่าวถึงการติดตามคนร้ายรายนี้ว่า หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับชุดสืบสวนไม่พบหลักฐานใดของคนร้าย แต่จากสภาพแวดล้อมในที่เกิดเหตุ คาดว่าคนลงมือต้องเป็นคนในพื้นที่ เนื่องจากระยะทางที่ห่างไกล และความยากลำบากในการเข้าถึงพื้นที่ ซึ่งผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ก่อนหน้านี้ ผู้เสียหายเคยมีปากเสียงกับเพื่อนบ้าน เป็นไปได้ว่าอาจเกิดความโกรธแค้นโดยมาระบายกับสัตว์เลี้ยง ซึ่งต้องรอผลการสืบสวน จากนั้นจะได้เชิญตัวผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อที่จะหาตัวผู้กำระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป